“ทั้ง ขาว สวย หมวย (รึเปล่า) อึ๋ม จอมขโมยซีนตัวแม่” “ต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์” สลัดภาพดีเจสุดเปรี้ยว มาเป็นพริตตี้ตัวร้ายที่ไม่เคยไร้เสียงฮาคู่ปรับคนสำคัญ ที่มาเพื่อฆ่าตุ๊กกี้ใน “โอ้! มายโกสต์ คุณผีช่วย” โดยเฉพาะ

Q.โอ้! มายโกสต์ คุณผีช่วย ว่ากันว่ามีอีกหนึ่งคาแรคเตอร์ที่จะขาดไม่ได้เลย เพราะเป็นคู่ปรับที่ถูกส่งมาฆ่าพริตตี้ตุ๊กกี้โดยเฉพาะ เล่าให้ฟังหน่อยกับบทบาททางการแสดงล่าสุดของดีเจต้นหอม

T.สวัสดีค่ะดีเจต้นหอมนะคะ ในภาพยนตร์เรื่อง โอ้! มายโกสต์ คุณผีช่วย รับบทเป็นสาวสวย ฮิ ฮิ…คือเป็น 1 ใน  3 คนของพริตตี้ที่แบบร้อนแรงที่สุดในยุคนี้เลยค่ะ       คือตอนที่พี่เพชรบอกให้มาเล่นเป็นพริตตี้นะ หอมขำก่อนเลย หอมนึกภาพในอดีตวันที่เราเคยทำอาชีพนี้เป็นพริตตี้ได้ดีทีเดียว วันนั้นเราไม่ได้ตลกตัวเองแต่พอหลุดออกมา เรากลับรู้สึกว่าตลกชีวิตพริตตี้ของเรา และเรารู้ด้วยว่าเราจำมาจากไหน  ดีเทลเล็กๆอย่างการแต่งหน้าทำผม คิดเองเออเองทั้งหมดในยุคนั้น  พอย้อนกลับไปดูรูปเก่าๆ แล้วเรารู้สึกว่ามันไม่ได้ มันพังค่ะ (หัวเราะ) มันพังมากชีวิตตอนนั้น แล้วพอพี่เพชรมาชวนเล่นเป็น พริตตี้มันไม่ใช่คา (แรคเตอร์) เราไง แค่ชวนก็ผิดแล้ว อย่างน้อยสิ่งที่คุณต้องมีก่อนเลยคือเรื่องความสวย  ใครจะมานั่งจ่ายเงินขายของให้ผู้หญิงไม่สวยมายืนขายสินค้า คือหนึ่งคุณต้องมีความสวย และความสาวยั่วยวนมันน่าเข้า เพราะ พริตตี้มันก็เป็นจุดดึงดูดอย่างหนึ่งทางสายตา ของลูกค้า เราก็เลยรุสึกว่ามันต้องตลกมากแน่ๆ เพราะสิ่งที่เราเป็นมันตรงข้ามกันหมดเลย และหนักขึ้นไปอีกคือการเป็นพริตตี้เป็นกับพี่ตุ๊กกี้ด้วย  แค่คิดก็ฮาแล้ว เวลาเราไปเล่าให้เพื่อนฟังว่าเฮ้ย ฉันเป็นพริตตี้กับพี่ตุ๊กกี้  มันเหมือนกับอาจจะนึกภาพในหัวว่า 2 คนนี้จะเป็นยังไงเพราะร่าง 2 คนนี้ควรจะเป็นแม่พริตตี้มากกว่า (หัวเราะ) แล้วคือมาเล่นก็ต้องมาแอ๊บว่าไม่แก่นะ….และสวยมากๆ ด้วย

 

Q.เห็นว่าเล่นเป็นพริตตี้ แล้วมีกลุ่มมีแก๊งมีชื่อก๊วนของเราด้วย “พริตตี้เรนเจอร์” ลองให้คำนิยามหน่อย

T.ก็สำหรับแก๊งพริตตี้เรนเจอร์เป็นแก๊งพริตตี้สาว 3 คนค่ะที่เข้ามารวมตัวกันโดยไม่รู้ว่าแต่ละคนมีที่มายังไงบ้าง แต่รู้ว่าทุกคนมีเป้าหมายเหมือกันคือ ชอบเสริมสวยเติมแต่งความงาม ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เริ่ด และดูดีเราก็จะเอามาทำตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสวย ความขาว ความอึ๋ม เอาทุกอย่าง ก็จะเป็นผู้หญิงที่รักสวย รักงาม นี่แหละคะ ก็เป็นตัวแทนของคนที่รักสวยรักงามในยุคนี้ เพราะความสุขมันสามารถช็อปปิ้งกันได้ เราก็เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่บ้าความงามมากๆๆ อารมณ์เหมือนแบบเปิดแคตตาล็อคแล้วฉันชอบ จมูกแบบนี้ฉันชอบ สวย เอาอันนี้  หรืออันนี้ขาวจัง ฉันเอา แล้วบางทีมันก็มีเรื่องราวที่มีผลกับการทำศัลยกรรม ด้วย  ก็เป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่มีทั้งแบบประสบความสำเร็จ และผิดพลาดในเรื่องความสวย ความงาม ไอ้สิ่งที่ทำไม่รู้ว่าทำให้สวยรึเปล่า แต่ขอทำก่อน

 

Q.อย่างที่บอกเล่นเป็นพริตตี้แล้วต้องเป็นคู่ปรับกับตุ๊กกี้ด้วย เล่าให้ฟังหน่อยว่าพริตตี้แบบดีเจต้นหอมในเรื่องคาแรคเตอร์เป็นอย่างไร

            T. รับบทเป็นหวาน ก็จะเป็นคนที่โตสุดในกลุ่ม อาจจะเพราะเข้าวงการมาก่อน และทั้ง 2 คนก็จะเป็นผู้ยอมรับว่าหวานเนี่ยะเป็นพี่ใหญ่เป็นผู้นำของกลุ่ม  ซึ่งในบุคลิคของหวานจริงๆเป็นผู้หญิงที่ฉลาด  แต่ลึกๆ แล้วไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น มีจุดเด่นคือความสวย แล้วก็จะพยายามใช้ชีวิตไปในแนวทางของผู้หญิงสวยไปตลอด  ในส่วนของเพื่อนๆ ก็ดูเหมือนจะคล้อยตามเรา  แต่จริงๆ มันก็จะมีแอบอิจฉากันบ้างเบาๆ  เป็นแบบว่าอย่าล้มนะ ฉันข้ามได้อะไรอย่างเงี้ยะ ก็แข่งกันน่ะค่ะ    มันก็จะเป็นสีสันในเรื่องที่แข่งกันเรื่องความสวยความงามและพยายามจะพรีเซนต์ออกมาว่าฉันสวย แต่ความสวยมันแค่ภายนอก แต่บางทีเราก็ลืมไปว่าข้างในเราก็ไม่ได้พัฒนาเลยนะ   พัฒนาแต่ข้างนอกกัน

 

Q.ฟังๆ ดูแล้วเป็นบทที่มีสีสันไม่แพ้บทเจ๊ในยอดมนุษย์เงินเดือนเลย อย่างนี้ต้องมีการเตรียมตัวเป็นพิเศษเพื่อมารับบทนี้ไหม

T. (หัวเราะ) หอมเคยเป็นพริตตี้มาก่อนอยู่แล้ว ก่อนมาเข้าวงการนะคะ พริตตี้มันจะมีมุมที่เป็นแพทเทิร์นของมันอยู่แล้วในมุมของต้นหอมน่ะนะ ซึ่งยุคนี้มันอาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปบ้างนะ  เรารู้สึกว่าการเดินการโพสต์ท่าของเรา ทุกอย่างมันจะไม่เป็นธรรมชาติ   แต่มันน่ะคือพริตตี้  แต่ถามว่าหอมเอามันมาจากไหน หอมก็เอามันมาจากรุ่นพี่ต้นแบบพริตตี้อีกทีหนึ่ง ที่เราเห็น บางทีก็คือยืนธรรมดาขายของ แต่พอมีกล้อง ก็จะยิ้มโชว์ หันซ้ายหันขวา เพราะกลัวกล้องเก็บได้ไม่ครบ คือทุกอย่างมันเหมือนเป็นเป็นแพทเทิร์น เราก็ไม่รู้ว่าใครสอนให้เป็นแบบนั้นว่านี่มันคือพริตตี้ แต่ในยุคปัจจุบัน ไอ้ท่าโพสต์พวกนี้หอมก็ยังเห็นอยู่ เวลาหอมไปออกงานก็ยังมีมุมนี้อยู่ คือแบบมันถูกปลูกฝังมาซึ่งในชีวิตของเรา ชีวิตของการทำงาน มันเป็นอิริยาบถที่เรียกว่าพริตตี้  ฉะนั้นเมื่อต้นหอมกลับมารับบทเป็นพริตตี้อีกครั้ง มันสามารถรีไมด์ถึงความรู้สึกเก่าๆ ได้ ชีวิตเก่าๆ ได้ดีเพราะมันแตกต่างจากในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ซึ่งในเรื่องนี้มันก็จะมีความโอเวอร์แอ็คติ้งมากขึ้นไปอีกเพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว  พริตตี้ยุคนี้จะมีการแสดงออกที่มากขึ้นกล้าขึ้น พริตตี้สมัยก่อนน่ะแอ๊บ จะยิ้มหวาน เวลาจะเมาท์ทีก็ทำปากหมุบหมิบบ ดูตานั่นสิ….กล้องน่ะเสย กล้องนะเสย….พริตตี้สมัยนี้ก็จะมีความมั่นใจมากขึ้นและกล้าแสดงออก แล้วก็การแข่งขันสูง สมัยก่อนจะไม่แข่งกันมากเท่ายุคนี้ ยุคนี้มันเป็นแบบงานเริ่มต้นของผู้หญิงสวย ใครได้เป็นพริตตี้เธอจะต้องสวย  มันก็จะมีการแข่งขันมากขึ้น ฉะนั้นในเรื่องนี้ทุกอิริยาบถฉันจะต้องโอเวอร์และจะต้องดูดีตลอดเวลา ฉันทำยังไงก็ได้ที่จะต้องดูดีตลอดเวลา เช่นถ้าฉันยืน ฉันก็จะต้องดูดีกว่าคนอื่น มันก็แบบว่า เป็นหนึ่งมุมมองของหนังและทำให้หนังมีสีสัน

 

Q.และเป็นสีสันของหนังแบบไม่ใช้น้อยเลยทีเดียว ตั้งแต่บุคลิกคาแรคเตอร์แต่รวมไปถึงเสื้อผ้าทรงผมเฟอร์นิเจอร์เครื่องประดับแครื่องแต่งกายสมกับความเป็นตัวละครพริตตี้จริงๆ

T.ให้คำจำกัดความคือคำว่า “เยอะ” เยอะทุกอย่างตั้งแต่เสื้อผ้าสีสันตอนที่เขาแคสติ้งมาให้เราดูแบบให้เราใส่แบบนี้จริงๆเหรอแล้ว เขียว ส้ม แดง เรียงกัน คือแต่หอมสนุกกับสีสันนะหอมมีความรู้สึกว่าเออมันคือความสนุกของหนังแค่แบบแค่เครื่องแต่งกายมันก็สนุกแล้ว แล้วมันสนุกกับการที่แบบเลือกใส่อะไรมาประโคมให้คนนี้ๆๆ ต้องเป็นยังไง แล้วเวลามันยืนรวมตัวกันทั้งสามคนมันสนุกมากฉะนั้นเอ่อตอนมาเป็นพริตตี้เรนเจอร์เนี่ยะคือทุกอย่างมันเยอะหมดเลยมันเหมือนเป็นตัวอีกตัวหนึ่งค่ะที่ใช่ตัวเราแล้วก็มันไม่มีโอกาสที่เราจะได้แต่งหน้าจัดๆ แล้วแต่งตัวแบบอีกนิดคือจะเพี้ยนระหว่างสวยกับเพี้ยนมันกั้นกันแค่เส้นบางๆ มาก แต่ว่ามันได้ทำในหนังอะไรอย่างเนี้ยะมันก็รู้สึกว่าเออสนุก และนี่ก็คือคงเป็นภาพอยากให้คนจำว่าถ้าพูดถึงพริตตี้เรนเจอร์นะ มันจะต้องมีท่าประกอบ ถ้าประกอบมันก็ดูดัดจริตดีนะซึ่งมันจะเต็มเหมือนมันครบรสของความเยอะ ความดัด ความแอ๊บของผู้หญิงมารวมตัวอยู่ในกลุ่มพริตตี้เรนเจอร์หมดเลยค่ะ แล้วถ้าพูดถึงแก๊งพริตตี้เรนเจอร์ที่มันเป็นสีสันของหนังก็เพราะว่าจริงๆ ถ้าจะว่าไปเราก็ถือว่าเป็นตัวร้ายนะ เป็นตัวร้ายในเรื่องแต่ว่ามันมีร้ายแบบน่ารัก ร้ายแบบตลกอยากทำร้ายเขาแต่มันกลายเป็นแบบทำร้ายตัวเองด้วยความไม่ฉลาดอะไรอย่างนี้ ซึ่งหอมเชื่อว่า 3 ตัวนี้จะเป็นตัวละครที่ ที่คนดูรู้สึกหลงรักมากกว่าเกลียดนะคะ แล้วในเรื่องก็จะแบบว่าทุกครั้งที่มีการรวมตัวกันก็จะมีอารมณ์เม้าท์ๆ ของผู้หญิงหรือแม้แต่ว่าเข้าบทกับพี่ตุ๊กกี้ก็จะมีการตอบโต้ ฉะนั้นพี่ตุ๊กกี้ก็จะมีคาแร็กเตอร์เป็นของเขา คือไม่รู้โง่จริงหรือแกล้งโง่ในเรื่องในการตอบโต้แต่ไอ้เนี่ยโง่จริงคือเหมือนกับพี่ตุ๊กกี้ก็เข้าใจผิดเหมือนกันเวลาโดนเขากัดก็เข้าใจว่าเค้าชมคืออันนี้ก็โง่อยู่แล้วแล้วนั่นดันตอบแบบผิดวัตถุประสงค์อีกมันก็เลยแบบว่ายังไงในการเถียงกันหรืออะไรอย่างเนี้ยะมันก็จะเป็นแบบไดอะล็อกที่แบบสนุกๆ ของหนังเรื่องนี้นะคะ

 

Q.ช่วยเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ของ “โอ้! มายโกสต์ คุณผีช่วย” ให้ฟัง

T.หนังเรื่องนี้มันจะเล่นถึงความผูกพันระหว่าง คน ก็คือผู้หญิง 2 คนนะคะ คนหนึ่งเนี่ยก็เป็นมนุษย์ธรรมดาแต่อีกคนหนึ่ง ไม่รู้จะนิยามว่าเป็นผีหรือว่าวิญญาณหรืออะไรดี แล้วแต่คุณไปให้คำจำกัดความสิ่งมีชีวิตอันนี้ละกันว่าคุณจะเรียกว่าเป็นอะไรคือมาเจอกันโดยบังเอิญแล้ว 2 คนนี้ก็มีเรื่องราวที่จะต้องอยู่ด้วยกันแล้วก็จะเกิดความผูกพันมีทั้งทะเลาะ มีทั้งกวนมีทั้งแบบซาบซึ้ง ในขณะที่ระหว่างทางที่พวกเขาพบกันเขาต้องปฏิบัติภารกิจให้ได้หนึ่งอย่างที่เขาตั้งเป้าเอาไว้แต่ระหว่างทางที่จะต้องปฏิบัติภารกิจมันก็มีไอ้ 3 ตัวนี้ พริตตี้เรนเจอร์ ฉันก็อยากจะได้ภารกิจนั้นเหมือนกัน ฉันก็อยากให้บรรลุเป้าหมายเหมือนกัน ฉะนั้นอยากให้เป็นฉันมากกว่าเธอ ก็มีความคิดร้ายๆ ชั่วร้ายต่างๆ เนี่ยะมันก็จะเกิดขึ้นแต่ว่าคนดูจะไม่รู้สึกว่าฉัน3คนมันร้ายมากอะไรนะคะ เพราะว่าอยากจะร้ายใส่เขาแต่ก็ไม่เคยทำสำเร็จเลยคือเป็นฝ่ายพลาด พลาดตลอดอะไรอย่างนี้ ก็จะเป็นแบบ เอ่อ 3คนนี้ก็จะเป็นสีสันที่คอยเหมือนกับทำให้เนื้อเรื่องมันครบรสมากยิ่งขึ้นในมุมของตลก ส่วน 2 คนก็จะมีเรื่องราวระหว่างกัน ก็จะได้เห็นความรัก ความผูกพันอย่างที่บอกไปนะคะ ฉะนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้มันสามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย ใครดูก็ได้มันเต็มไปด้วยความอบอุ่น เชื่อว่าคุณเข้าไปดูแล้วมันจะมีรอยยิ้มเพราะว่ามันจะไม่ได้มีมุมดาร์กไซส์ของหนังเรื่องหรือในมุมสีเทาอะไรอย่างนี้นะคะ มันเป็นเรื่องของความรักแล้วก็แต่งเติมความสนุกด้วยภารกิจที่เป็นตัวโจทย์ว่าต้องทำให้สำเร็จ แล้วก็จะมี3ตัวนี้ค่ะที่จะเป็นตัวป่วนดีไหมเพราะช่วยอะไรก็ไม่ได้ช่วยก็คือเป็นตัวป่วนนี่แหละ แล้วก็ภารกิจนี้จะสำเร็จหรือเปล่านะคะก็อยากให้ติดตามค่ะ

 

Q.คิดว่าเสน่ห์ความน่าสนใจความพิเศษของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ตรงไหนอย่างไร

T.ค่ะก็ปกติถ้าพูดถึงหนังเพื่อนหรือบัดดี้คู่หูอะไรอย่างนี้ ก็จะเป็นผู้ชายนะ ปฏิบัติภารกิจไปสู้รบ เป็นแอ็คชั่นเป็นอะไรส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ชายคู่กัน แต่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องของผู้หญิงคู่กันซึ่งนิสัยผู้หญิงนะแน่นอนมันมีความจุกจิก มีนิสัยต่างๆ ที่มันแตกต่างจากความเป็นผู้ชาย แอ็คชั่นอะไรคุณอาจจะไม่ได้เห็นหรอก แต่มันจะมีความอ่อนโยนหรือว่ามีความเอ่อ แอบจิกกัดปากไวกันนิดนึง หรือว่ากวนใส่กันอะไรอย่างนี้นะคะ ลองมาดูภาพยนตร์เรื่องนี้ในมุมของผู้หญิงดูบ้าง แล้วก็สีสันของเรื่องก็ดันเป็นผู้หญิงอีกการรวมกลุ่มกันของผู้หญิงมันจึงเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมันก็จะมีมุมที่แบบคุณจะได้เห็นนิสัยที่เป็นผู้หญิ้งผู้หญิงจากภาพยนตร์เรื่องนี้นะค่ะ

 

Q.หลายๆ คนอาจคุ้นเคยกับบทบาทของการเป็นดีเจ พิธีกร แต่จากเรื่องที่แล้ว “ยอดมนุษย์เงินเดือน” มั่นใจว่าอีกบทบาทที่ทุกคนต้องจดจำต่อไปเมื่อพูดถึงดีเจต้นหอมคือ นักแสดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบทพริตตี้คู่ปรับตุ๊กกี้ใน “โอ้! มายโกสต์ คุณผีช่วย” ภาพตรงนี้น่าจะชัดเจนยิ่งขึ้น

T.เอ่อ หอมว่าหอมอาจจะยังใหม่สำหรับเรื่องของการแสดงนะคะ เป็นคนชอบทำอะไรมาหลายๆ อย่างแต่ว่าด้วยความที่พื้นฐานถ้าเริ่มต้นเนี่ยะหอมจะเป็นเด็กแบบแคสติ้งโฆษณา ซึ่งอันนี้คืองานหินที่สุดเพราะว่าคุณแคสต์กันกี่สิบกี่ร้อยคนก็ตามเอาคนเดียว ฉะนั้นหอมแคสต์อยู่หลายปีมากค่ะ แคสต์สินค้าเป็นร้อยชิ้นกว่าจะได้หนึ่งตัวพอมันได้มันเริ่มจับทางถูก มันเริ่มได้ ฉะนั้นมันคือการเรียนรู้แต่ว่าหอมผ่านงานยากมาละ ทีนี้ละครเนี่ยะถ้าเทียบกับการโฆษณา ละครมันง่ายกว่าหรือการแสดงภาพยนตร์มันง่ายกว่าการแสดงโฆษณาอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าหอมใหม่คือประสบการณ์ว่าศาสตร์แบบเนี้ยะมันเล่นยังไง สิ่งที่ตอนนี้ที่ตัวเองทำความเข้าใจเรียนรู้นะคะ ก็เข้าใจว่าพยายามคิดว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันคือเรื่องจริง ตัวเองเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ สลัดความเป็นต้นหอม สลัดความเป็นดีเจเหมือนตอนที่เล่นยอดมนุษย์เงินเดือนฉันคือนันทพรคือหอมเป็นคนที่แอนตี้บทสูงอายุมาก เอ่อ ตอนที่เขายื่นบทมาบอกว่า30กว่าตอนนั้นหอมตกใจมากบอกว่าลดลงหน่อยได้ไหม ตอนแรกบอกสี่สิบต้นๆ สามสิบกว่าได้ไหมอะไรอย่างเงี้ยะ ลดลงมาอีก ลดลงมาอีกจนแบบถามว่าแก่ไหมๆ เขาบอกไม่แก่ๆ ผู้กำกับบอกไม่แก่แต่วันที่ถ่ายจริงหอมเห็นเสื้อผ้าหน้าผมแล้ว แก่มากค่ะ แต่คือรับไว้แล้วเพราะว่าอ่านบท อ่านบทแล้วชอบมากตัวนันทพรตลกมาก คือแค่อ่านบทก็มีความรู้สึกว่าอยากจะเล่น ฉะนั้นเลยเป็นเรื่องที่แบบฉันยอมเล่นเป็นคนแก่ฉันยอมสลัดความเป็นต้นหอมออก คือถ้าพูดถึงความเป็นต้นหอม ต้นหอมให้ความสวยงามก่อนเลยไม่ปล่อยตัวคืออะไรก็ได้คือเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงาม แต่ว่าเรื่องนี้ที่เป็นนันทพรเนี่ยะหอมต้องเป็นคนที่ไม่ได้ห่วงเรื่องความสวยชีวิตตัวเองมีปัญหาเยอะ ฉะนั้นก็มันก็เหมือนแบบจากเรื่องบทนันทพรแล้วคนก็จะเข้าใจว่าเฮ้ยมันเล่นเป็นตัวเอง เอ่อแต่จริงๆ คือเรา รู้สึกเรากำลังสวมบทนันทพรชีวิตจริงหอมไม่ได้เป็นแบบนั้นละก็พอมาเล่นเรื่องอื่นหอมก็พยายามใช้ประสบการณ์ตรงนั้นนะคะมาคิดว่าเราคือใคร บทตอนนี้เราเป็นใครอยู่แล้วก็จากการที่ต้นหอมได้ถ่ายซิทคอม เลิฟออนแอร์ เอ่อเรื่องนั้นหอมเป็นนางเอก ฉะนั้นหอมจะได้เล่นเยอะมาก มีเข้าทุกฉากๆ ตอนแรกๆ หอมจะงงกับการเล่น แต่ว่าหอมได้พี่ เอส วรฤทธิ์ เป็นผู้กำกับ พี่เอสจะเล่นให้ดูแล้วก็สอนเทคนิคในการเล่นละครเพราะว่าพี่เอสเขาเล่นละครมานานมากนะจะสอนว่าแบบใช้ความรู้สึกเล่นจริงๆ คือเห็นๆ จริง ทำๆ จริงเนี่ยะไม่จินตนาการนะคือให้รู้สึกว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็เลยเอามาใช้กับการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน ฉะนั้นบทที่เล่นเป็นบทของหวาน หอมจะคิด หอมต้องออกแบบก่อนว่าหวานจะมีคาแร็กเตอร์แบบไหน เอ่อสวยแต่โง่นะ ในความรู้สึกคิดอย่างนี้ มันสวยแล้วมันโง่มันเข้าใจว่ามันฉลาดด้วย เข้าใจว่าสวยด้วยเป็นความเข้าใจผิดของตัวหวานอะไรอย่างนี้ แล้วก็จะออกมีมุมโก๊ะๆนิดนึง ซึ่งก็ที่เล่นๆ ไปพี่เพชรก็แบบโอเคก็ยังไม่ได้ติงอะไรก็แสดงว่าเราอาจะมองภาพเดียวกันอยู่ พี่เพชรก็จะให้เล่นให้ดูตามความเข้าใจว่าเจ้าหวานเป็นยังไงแล้วก็ถ้ามันขาดเหลือตรงไหนพี่เพชรก็จะมาคอยเติมให้อะไร

 

Q.พูดถึงผู้กำกับพี่เพชรเปิดโอกาสเปิดพื้นที่ให้เราได้ทำนั่นโน่นนี่ในเรื่องการแสดงมากน้อยแค่ไหน อย่างไร

T.พี่เพชรเหรอค่ะ คือบทมันเปิดโอกาสให้เราได้แสดงอย่างเต็มที่ได้เลยนะ แค่แบบอย่าหลุดกรอบอะไรมากไปอะไรอย่างนี้ ในกรอบของหวานมันเป็นอย่างนี้นะคุณสามารถเล่นอะไรก็ได้ในกรอบของคุณ หวานไม่เรียบร้อย ถ้าหวานจะมาแบบเรียบร้อยหรือฉลาดมากไม่ใช่ แต่ถ้าในกรอบนี้คุณอยากเล่นอะไรทำเลย ทำให้ผู้กำกับ แล้วผู้กำกับก็ซื้อเอา หรืออะไรอย่างนี้ค่ะ ทำงานกับพี่เพชรไม่ค่อยมีจุกจิกหรือแก้ไขอะไรมากมายเพราะว่าเหมือนพี่เพชรเห็นบางอย่างในตัวเรา แล้วรู้สึกว่ามันใกล้เคียงมันปรับได้เป็นหวานได้ แล้วเขาก็เหมือนกับให้เล่นแล้วมองภาพว่าเอออันนี้พี่โอเคนะเขาก็จะแบบปล่อย

 

Q.มาจนถึงตรงนี้เริ่มหลงรักศาสตร์ที่เรียกภาพยนตร์แล้วหรือยัง

T. คือต้องบอกว่าโดยส่วนตัวหอมไม่ชอบวิธีการถ่ายทำภาพยนตร์เพราะว่ามันเหมือนกับการถ่ายโฆษณา ซึ่งหอมอยู่ในวงการโฆษณามานานแล้วมันเบื่อในการถ่ายทำเพราะว่าเราต้องเล่นซ้ำๆ เดิมๆ ซ้ำๆ เดิมๆ แล้วก็ถ่ายรับโน่น มุมนี้ มุมนั้น ซึ่งภาพยนตร์จะต้องทำอย่างนี้เพราะว่าภาพจะได้ออกมาสวย วันที่ถ่ายทำเราจะรู้สึกไม่สนุกเราอยากเปลี่ยนฉากละ หอมชอบที่จะหาอะไรใหม่ๆ มาเล่นให้ทำอะไรซ้ำๆ เดิมๆ เป็นคนสมาธิสั้นจะไม่สนุกกับมัน แต่พอวันที่ภาพยนตร์ออกฉายหอมรู้สึกว่าทุกอย่างมันสวยมันลงตัววันนั้นคือวันที่รู้สึกหายเหนื่อย ฉะนั้นวันนี้เนี่ยะเลยแบบโอเค ภาพบรรยากาศการถ่ายทำมันดูเหมือนเราต้องเล่นซ้ำๆ เฮ้ยเล่นเยอะเกินไปแล้วไม่สนุกหอมจะคิดอยู่เสมอว่าวันที่ภาพยนตร์ออกมันคือวันที่สวยยิ่งถ่ายมากเท่าไหร่เนี่ยะมันคือความละเอียดของงาน คุณจะหายเหนื่อยในวันที่ตัวเองอยู่ในจอภาพยนตร์ หอมรู้สึกว่าชอบศาสตร์ของภาพยนตร์มากที่สุด ณ ตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่มันออกฉาย ในขณะเดียวกันเรื่องของละครหอมสนุกกับการถ่ายทำแต่หอมไม่ชอบฟีลของการเล่นละคร คือภาพยนตร์จะเล่นจริงกว่า แต่ถ้าละครบางทีมันมีโอเว่อร์แอ็คติ้ง ซึ่งต้นหอมมีความรู้สึกว่าชีวิตจริงของคนเรามันไม่ได้มีโอเวอร์แอ็คติ้งขนาดนั้น แต่ละครมันต้องเล่นเพราะว่า คนดูชอบเล่นใหญ่ชอบที่จะสนุกโดยเฉพาะตัวนี้เป็นตัวตลกมันต้องตลกเยอะๆ อะไรอย่างนี้ แต่หอมคิดว่ามันมีความเป็นจริงกว่าในเรื่องของภาพยนตร์ อย่างเวลาเล่นแค่ใช้สายตานิดนึง กล้องสามารถรับได้หมดเพราะเขาเก็บเราหลายจุดมากฉะนั้นหอมชอบผลงานของภาพยนตร์เวลามันออกมาค่ะยังไงก็ติดตามชมกันนะค่ะ โอ้! มายโกสต์คุ ณผีช่วย 28 พ.ย.นี้ทุกโรงภาพยนตร์ค่ะ