ไปดูมาแล้ว Miss Saigon สนุก ซาบซึ้ง ตระการตา สมราคา ละครเพลงแห่งปี!

เรียกได้ว่า คุ้มค่า สมการรอคอยจริงๆ สำหรับละครเพลงเรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี Miss Saigon กับครั้งแรกของละครเพลงระดับโลกเรื่องนี้ในภาคภาษาไทยซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลงานของผู้กำกับคุณภาพ บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ ที่เคยฝากความประทับใจให้ผู้ชมมาแล้วหลายเรื่องเช่น ข้างหลังภาพ, ทวิภพ, แม่นาคพระโขนง, สี่แผ่นดิน, รักจับใจ เดอะโรแมนติก มิวสิคัล ฯลฯ

ซึ่งเมื่อเทียบกับผลงานเรื่องก่อนๆ Miss Saigon น่าจะเป็นละครเพลงที่ คุณ บอย ถกลเกียรติ จะต้องลงมือ ลงแรงด้วยความพิถีพิถันมากที่สุดเลยกว่าได้ เนื่องจากว่านี่เป็นละครเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมาแล้วทั่วโลก แถมทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกถ่ายทอดออกมาบนเวทีทั้งการแสดง, เสียงร้อง, ดนตรี ไปจนถึง ฉาก จะต้องได้มาตรฐานตามที่เจ้าของลิขสิทธิ์ต้องการ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาบอกได้คำเดียวว่า “ยอดเยี่ยม!”

Miss Saigon เล่ารื่องราวความรักของ คิม (รอบที่ได้ชมแสดงโดย เน็ต – กานดา ส่วนนางเอกอีกคนที่จะมาสลับสับเปลี่ยนคือ แก้ม-กุลกรณ์พัชร์) สาวน้อยวัย 17 ปี ชาวเวียดนามกับ คริส (กัน – นภัทร) ทหารหนุ่มสัญชาติอเมริกัน โดยมีฉากหลังเป็นสงครามเวียดนาม ที่ทำให้ทั้งสองต้องพลัดพรากจากกัน แต่ด้วยความรักที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงของฝ่ายหญิง ได้นำไปสู่บาดแผลอันแสนเจ็บปวด และโศกนาฎกรรมสุดสะเทือนอารมณ์ ซึ่งจากเนื้อเรื่องคร่าวๆ ข้างต้น น่าจะทำให้คนที่ยังไม่แน่ใจว่า ละครเพลงฝรั่งแบบนี้ คนไทยอย่างเราๆ จะเข้าถึงหรือเปล่า? รู้สึกสบายใจได้ เพราะจะว่าไปแล้วเรื่องราวทำนองนี้ ก็คล้ายๆ กับละครไทยที่เราชอบดูกันนั่นเอง ดังนั้น ขอยืนยันกันตรงนี้อีกสักครั้งว่า ละครเพลงเรื่องนี้ ถูกรสนิยมคนไทย แน่นอน!

ในส่วนของทีมนักแสดงนำ ต้องบอกว่างานนี้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ทั้งในส่วนของ แอ็คติ้ง และ การร้องเพลง ไล่ไปตั้งแต่ กัน – นภัทร ที่สวมบท คริส นายทหาร G.I. ได้อย่างน่าเชื่อถือ, เน็ต – กานดา ในบท คิม ที่ปลดปล่อยพลังออกมาแบบไม่ยั้งตลอดเรื่อง (ด้วยบทที่ค่อนข้างหนักนี่เอง ทำให้ Miss Saigon ต้องใช้นางเอกสลับกันแสดง 2 คน) จนทำให้ผู้ชมสัมผัสความเจ็บปวดของสาวเวียดนามผู้อาภัพได้แบบถึงก้นบึ้ง, คิว วงฟลัวร์ กับบท จอห์น และ นิว นภัสรสร ในบท เอเลน ที่สอบผ่านแบบสบายๆ กับการแสดงละครเวทีเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะฉากโชว์เดี่ยวของ คิว (ฉากประชุม Bui-Doi) และ จิ๋ว (ฉากห้องในโรมแรมที่กรุงเทพ) ที่ทั้งคู่เอาคนดู “อยู่หมัด” และที่ต้องชื่นชมเป็นพิเศษเลยก็คือ เบน ชลาทิศ ผู้สวมบท เอนจิเนียร์ เจ้าของสถานเริงรมย์ในเมืองไซง่อน ที่กลายเป็นตัวละครชูรส ที่สร้างสีสันให้กับละครเพลงเรื่องนี้อย่างมาก กับหลายๆ ฉาก หลายๆ ครั้ง ที่เขาทำให้คนดูต้อง “ทึ่ง” กับการแสดง “ตะลึง” ในเสียงร้องอันทรงพลัง และ “ฮา” ไปกับลีลายียวนกวนประสาท จนเรียกเสียงปรบมือกึกก้องได้แทบทุกครั้ง

ส่วนของโปรดักชั่น ก็ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม กับหลายๆ ฉากที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นที่นั่นจริงๆ ทั้ง ฉากค่ายทหาร, ฉากคลับ Dreamland,ฉากคลับในกรุงเทพ โดยเฉพาะฉากใหญ่ซึ่งเป็นฉากสำคัญฉากหนึ่งที่ถูก เนรมิต ออกมาแบบ จัดเต็ม! นั่นก็คือ ฉากเฮลิคอปเตอร์ลำสุดท้ายที่ออกจากเวียดนาม ซึ่งเป็นฉากที่คู่พระ-นางในเรื่องต้องพลัดพรากจากกัน โดยฉากนี้ผู้ชมจะได้เห็นเฮลิคอปเตอร์บินลงมาจอดกลางเวทีกันเลยทีเดียว!!!

และที่จะลืมพูดถึงไม่ได้เลยก็คือ เพลง สำหรับ Miss Saigon จะเป็นละครเพลงที่มีบทพูดน้อย แต่จะเต็มไปด้วยเพลงเพราะๆ เยอะมาก ซึ่งคุณบอย ถกลเกียรติ เคยการันตีไว้ว่า “ตั้งแต่ทำละครเวทีมา เรื่องนี้มีเสียงร้อง และเสียงเพลงเพราะที่สุด!” และก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริง เพราะผู้ชมคงจะไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมมากขนาดนี้ หากเรื่องราวความรักอันแสนซาบซึ้งในเรื่อง ไม่ได้ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านบทเพลงสุดไพเราะแบบที่เราได้ยินตลอด 2 ชั่วโมง

สรุปว่า Miss Saigon มีทุกอย่างที่ละครเพลงดีๆ สักเรื่องควรจะมี ไม่ว่าจะเป็น ทีมนักแสดงที่แน่นปึ๊ก, เรื่องราวความรักซึ้งๆ เรียกน้ำตา ที่ทุกคนเข้าถึงได้, เพลงเพราะๆ ที่มีให้ได้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึง โปรดักชั่นอันตระการตา เพราะฉะนั้น ใครที่เป็น “คอละครเพลง” ตัวจริง! นี่คืออีกหนึ่งผลงานคุณภาพแห่งปีที่คุณ ต้องไม่พลาด!