“คชา-นนทนันท์” ผมดีใจที่ได้เกิดมาเป็นศิลปิน

คอลัมน์ คุยกับดาว
เรื่อง – อนันต์ ธัญญ์รัตน์

S01_372เป็นหนุ่มในฝันที่ผู้หญิงหลายคนคลั่งไคล้ ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวที่ใดไม่ว่าจะร้องเพลงหรือทำอะไร สาวๆ ต่างร้องกรี๊ดให้กับความอบอุ่นที่สัมผัสได้จากผู้ชายคนนี้ “คชา-นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์” หนุ่มที่รักเสียงดนตรี มองดนตรีเป็นแรงขับเคลื่อนทุกสิ่งอย่าง ผมอยากให้คุณรู้จักมุมมองในอารมณ์ศิลปินของเขามากขึ้น

เป็นหลายนาทีที่ทำให้ผมรู้จักตัวตนของคชามากขึ้น เริ่มต้นนาทีแรกที่คชาเดินมาเบื้องหน้าของผม แล้วบทสนทนาก็พรั่งพรู

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดงานเพลงที่เลอค่าสำหรับนักร้องที่ใช้ชีวิตมาอย่างเข้มข้น แต่เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาสำหรับชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ ที่ก้าวเท้าเข้าสู่เส้นทางดนตรีได้ไม่นานนัก ผมนึกสงสัยว่าคชามีอะไรเป็นวัตถุดิบที่ทำให้แต่ละเพลงของเขาถูกกลั่นออกมาได้อย่างลงตัวเช่นนี้

“มันมีสีสันบางอย่างที่ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน พอขึ้นไปบนเวทีแล้วเหมือนโดนมนต์สะกด การได้ร้องเพลงออกไปแล้วมีคนมาฟังมันทำให้เรามีความสุข”

สิ่งที่ผมสนใจหาใช่ภาพอิริยาบทเบื้องหน้าคชาในขณะนี้ หากแต่เป็นเสียงเพลง ที่เขาบรรเลงถ่ายทอดออกมาต่างหาก แต่หลายคนอาจจะไม่ได้มองอย่างผม ด้วยความที่เขาเป็นคนหน้าตาดี ผมคาดว่าเขาก็คงเผชิญกับแรงกดดันอยู่ไม่น้อย

“เรื่องแรงกดดันมันมีมาเรื่อยๆ อยู่แล้วครับ ทุกอาชีพเลย อยู่ที่ว่าเราจะต้องเรียนรู้มันและผ่านมันไปให้ได้”

เพราะประสบการณ์ที่เขาโลดแล่นในเบื้องหน้า หากวันหนึ่งเขาต้องผันตัวไปทำงานเบื้องหลัง ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะทำได้ไหม

“ก็น่าจะทำได้ครับ เพราะเราทำงานเบื้องหน้ามาก่อนก็จะเข้าใจว่าเขาต้องการอะไร สักวันนึงก็คงต้องได้ทำแน่นอน”

คชายิ้มทั้งดวงตาและใบหน้าที่มันไปด้วยเหงื่อ แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องผมอยู่ ผมคาดว่าเขาคงกระหายน้ำไม่น้อย การเป็นนักร้องไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สำหรับคชาแล้วมันเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ ว่าจะสามารถทำได้ดีขนาดไหน

คชายืนแน่นิ่งไม่ไหวติง ยังไม่ทันที่ผมจะป้อนคำถามต่อ เขาก็หยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ ผมรอจนคชาดื่มน้ำเสร็จแล้วค้นตัวตนของเขาต่อไปอีก

“เราจะผลัดกันเลือกแหล่ะครับ” คชาบอกกับผมหลังจากที่ผมถามไปว่า คิดว่าเพลงเลือกเราหรือเราเลือกเพลง “ตอนแรกเราต้องเลือกเพลงก่อน พอเราเลือกไปแล้ว ทีนี้แหล่ะเพลงก็จะเลือกเรามา”

เกิดมาเพื่อเพลงหรือเปล่า? ผมถามต่อ “อันนี้ก็ต้องพิสูจน์ดู แต่ผมอยากเกิดมาเพื่อเพลงนะ”

Photo 0050ทุกวันนี้เขาไม่ใช่หนุ่มน้อยนักล่าฝันอีกแล้ว หากแต่เป็นนักร้องหนุ่มหน้าหล่อเสียงดีคนหนึ่ง เขาพิสูจน์ให้ได้รู้แล้วว่าเขาไม่ได้มีดีที่หน้าตาเท่านั้น ด้วยศักยภาพที่เปี่ยมล้นประกอบกับการฝึกฝนตัวเองอย่างต่อเนื่อง หากจะบอกว่าเขาเป็นนักร้องแถวหน้าก็คงไม่ผิดแปลกไปเสียทีเดียว แต่กว่าจะมายืนตรงนี้ได้เขาก็ผ่านอะไรมาไม่น้อย ในฐานะรุ่นพี่เขาจะมีคำแนะนำให้กับศิลปินรุ่นน้องอย่างไรบ้าง

“ก็ต้องรักษาไว้ทั้งสองอย่างนะฮะ ผมว่ามันก็ต้องบวกๆ กัน จะมาทางเสียงอย่างเดียวก็ไม่ได้ จะมาทางหน้าตาอย่างเดียวก็ไม่ได้ ทั้งสองอย่างก็ต้องมาด้วยกัน”

ดวงตาของเขาทำให้ผมหยุดนิ่ง แต่เสียงของเขาทำให้ผมไม่อยากไปไหน ผมหลงใหลความเป็นนักดนตรีของเขายิ่งกว่าความหล่อของดวงหน้าเขาเสียอีก หลังจากที่บทสนทนาเดินทางมาได้พักใหญ่ เขาก็เล่าถึงที่มาของเพลง ถ้ารู้ก็คงไม่บอก

“ตื่นเต้นมากครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่คชาเขียนเมโลดี้ขึ้นมาเอง แล้วก็ได้พี่แม็ค-ศรัณย์ เป็นคนเขียนเนื้อครับ เสน่ห์ของเพลงนี้อยู่ที่เครื่องดนตรีน้อยชิ้น กับเสียงร้องของคชาที่มันจะไปด้วยกัน”

อากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงบ่ายไม่ได้ทำให้คชาผิดแปลกไปจากเดิม เขาส่งยิ้มหวานเป็นระยะจนผมค่อนข้างมั่นใจว่ารอยยิ้มนี้เองที่เป็นเสน่ห์มัดใจเหล่าบรรดาแฟนคลับ แต่สำหรับเพลงนี้ไม่รู้ว่า แฟนๆ ของเขาว่าอย่างไรกันบ้าง

“เขาก็ภูมิใจนะ ที่เห็นผมทำได้ หวังว่าแฟนๆ และคนฟังจะชอบ แค่นั้นก็พอใจแล้วครับ กระแสตอบรับดีขึ้นมาเรื่อยๆ หลายคลื่นเปิดเพลงของคชา”

หลังจากที่ผมนั่งฟังเขาพ่นเพ้ออยู่พักใหญ่ ผมก็เกิดใจร้อนอยากรู้ว่าในชีวิตจริงเขามีเรื่องที่รู้ แต่ไม่เคยบอก บ้างหรือเปล่า

“ก็มีบ่อยๆ นะครับ” บอกได้ไหม? “แหม! ถ้าบอกเขาก็รู้สิฮะ (หัวเราะ)”

คชาส่งยิ้มบอกเป็นนัยว่าอีกไม่นานเขาต้องจากไป ผมขมวดประเด็นการสนทนามาที่เรื่องคอนเสิร์ต ซึ่งออกจะประหลาดสักหน่อยเพราะผมเห็นเขาใส่นวมกับเพื่อนร่วมรุ่นสุดซี้ หรือเขาจะขึ้นมาชกมวยบนเวทีคอนเสิร์ตกันนะ

“TAO KACHA Let’s Fight หรือจะไฝว้ คอนเสิร์ต เป็นคอนเสิร์ตครั้งที่สามครับ ซึ่งเรามีมาแล้วสองครั้ง ครั้งนี้จะมาไฝว้กันบนเวที ร้อง เต้น แล้วก็อีกหลายๆ อย่าง แฟนๆ ชอบเห็นเราจิกกัดกันบนเวที แต่คราวนี้จะแบบยาวๆ ทั้งคอนเสิร์ตเลยครับ ส่วนเรื่องนวมมันอาจจะเป็นกิมมิคฮะ แต่ถ้าขึ้นชกจริงๆ ผมสู้ไม่ได้แน่ ผมแพ้แน่นอน (หัวเราะ)”

Photo 0063อาจพูดได้ว่า หากคอนเสิร์ตนี้ไม่ใช่ คชา-นนทนันท์ และ เต๋า-เศรษฐพงศ์ ก็คงไร้รสและจืดชืดก็เป็นได้ หากจะเปรียบเต๋าเป็นขนมปัง คชาก็คงเป็นนมข้นหวานที่เพิ่มรสชาติของขนมปังให้อร่อยมากยิ่งขึ้น ด้วยความที่แฟนๆ เป็นคนเลือกเต๋าให้คู่กับคชา แขกรับเชิญของทั้งสองก็คงจะต้องพิเศษสักหน่อย เพราะต้องมาช่วยเพิ่มรสชาติของขนมปังและนมข้นหวานให้น่าลิ้มลองมากยิ่งขึ้น

“ผมอยากจะบอกนะครับ แต่บอกไม่ได้ มันเป็นความลับ แต่ผมรู้สึกดีใจมากครับที่ได้แขกรับเชิญคนนี้มา” เป็นศิลปิน AF ด้วยกันหรือเปล่า? “(หัวเราะ)”

แล้วจะแซ่บมากน้อยแค่ไหน? ผมถามต่อ “ดูจากภาพบรรยากาศที่แฟนๆ มากันในวันแถลงข่าว เห็นแฟนๆ ฟินกันถ้วนหน้าแล้ว ก็ต้องแซ่บแน่นอนครับ” มีซุกไซร้บ้างไหม? “ต้องรอดูนะ (หัวเราะ)”

ก่อนจากกัน คชาฝากทิ้งท้ายว่า “ตอนนี้มีซิงเกิ้ลล่าสุด ถ้ารู้ก็คงไม่บอก แล้วก็คอนเสิร์ตที่จะถึงในเดือนพฤศจิกายนนี้ ฝากด้วยนะฮะ สู้ๆ เต็มที่”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ราวกับเสียงกระซิบที่ข้างหู ผมคาดว่าวันนี้เขาคงจะเหนื่อยเป็นแน่แท้ มีการพูดคุย คำถาม คำตอบ เสียงหัวเราะ รอยยิ้มและเรื่องราวอีกมากมาย แต่ผมต้องขออนุญาตที่จะไม่นำมาถ่ายทอดทั้งหมด เอาเป็นว่าถ้าคุณอยากสัมผัสความทะเล้นขี้เล่นของ คชา และ เต๋า ก็ตามไปดูกันต่อได้ใน “TAO KACHA Let’s Fight หรือจะไฝว้ คอนเสิร์ต ก็แล้วกัน…

ติดตามชมเรื่องราวอัพเดทของศิลปินได้ที่ คอลัมน์: คุยกับดาว น้องๆ คนไหนที่อยากอัพเดทเรื่องราวของศิลปินดาราสุดที่รักของคุณแบบนี้ ส่งมาได้ที่ startalk@prsociety.net หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.prsociety.net และ www.facebook.com/PRSocietyNews