เมื่อไม่นานมานี้ทายาททหารผ่านศึกไทย-เกาหลีและครอบครัวกว่า 100 ชีวิต ได้เข้าร่วมกิจกรรม Job Fair ของบริษัทชั้นนำเกาหลีต่างๆอย่างคึกคัก ซึ่งงานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค  เป็นกิจกรรมจัดหางานเพื่อเข้าทำงานกับบริษัทชั้นนำเกาหลีนี้ ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยสำนักงานพาณิชย์เกาหลี ประจำกรุงเทพฯ หรือ KOTRA (Korea Trade-Investment Promotion Agency) ภายใต้โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมโลก (Global CSR) โดยงานครั้งนี้จัดขึ้นสำหรับเหล่าทายาททหารผ่านศึกในสงครามเกาหลีโดยเฉพาะ โดยโครงการ CSR จัดหางานให้แก่ทายาททหารผ่านศึกไทย-เกาหลี มีจุดประสงค์เพื่อสร้างโอกาสให้กับลูกหลานของทายาททหารผ่านศึก ในการเข้าทำงานกับบริษัทเกาหลีชั้นนำต่างๆในเมืองไทย อีกทั้งเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณในความเสียสละของเหล่าทหารผ่านศึกไทย-เกาหลีที่ร่วมรบในปีค.ศ. 1950

นับตั้งแต่ประเทศไทยเป็นประเทศที่สองรองจากสหรัฐอเมริกาที่ได้ส่งเหล่ากองกำลังทหาร ทั้งทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ เข้าร่วมรบในเกาหลี จำนวนทั้งสิ้น 8,693 นาย ระหว่างปี 1950 ถึง 1953 ทางประเทศเกาหลีรู้สึกซาบซึ้งและปรารถนาที่จะตอบแทนในความเสียสละของเหล่าทหารผ่านศึกไทย-เกาหลี และส่งต่อความขอบคุณไปยังอนุชนรุ่นหลัง 

ทางองค์กรธุรกิจเกาหลีจึงมีความยินดีที่จะจัดจ้างงานให้แก่ทายาทของทหารผ่านศึกเพื่อเข้าร่วมทำงานกับบริษัทและองค์กรเกาหลีชั้นนำ อาทิเช่น  Thai Samsung Life Insurance, CJ Corporation, KTCC(Korea Thailand Communication Center), POSCO, LG Electronics, True GS, HanaTour, CTK Korea และ Tourism Association of Korea-Thailand และงาน CSRโครงการจัดหางานให้แก่ทายาททหารผ่านศึกไทยในสงครามเกาหลีในครั้งนี้ เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นโดยมีทายาททหารผ่านศึกสนใจเข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก อีกทั้งลูกหลานของทหารผ่านศึกที่ร่วมรบในสงครามเกาหลียังได้มีโอกาสพบปะและสัมภาษณ์งานโดยตรงกับฝ่ายบุคคลจาก ทั้ง 9 บริษัทเกาหลีอีกด้วย

นางสาว อริสรา หลานสาวของ พันเอก ทองรัชช์ อยู่พล ผู้เป็นหนึ่งในทหารผ่านศึกในสงครามเกาหลี ทั้งเธอและปู่ของเธอได้มีโอกาสเข้าร่วมงานและกล่าวว่า “นี่เป็นโอกาสที่ดีมากๆสำหรับเรา เราได้ทั้งข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเกาหลีและตำแหน่งงาน”

ผู้อำนวยการสำนักงานพาณิชย์เกาหลี นาย คิม มูน ยอง กล่าวว่า “มันใช้เวลาค่อนข้างนานทีเดียวที่จะได้ข้อมูลติดต่อของเหล่าทหารผ่านศึกและทายาท   เราจะพยายามเป็นตัวกลางในการประสานระหว่างเหล่าทายาทและบริษัทเกาหลี และนี่ก็จะเป็นการกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยและ ประเทศเกาหลีให้แน่นแฟ้นมากขึ้นอีกด้วย”