ทายาท 3 สาว “ลูกอมสื่อรักรูปหัวใจ” ลั่น ผนึกกำลังชิงแชร์ลูกอมคืน พร้อมปั้นแบรนด์ไทย “ฮาร์ทบีท” ให้ดังในประเทศนอก

D3S_6945“ฮาร์ทบีท” โหมกระแสความรักช่วงสิ้นปี จากทายาทรุ่นใหม่ 3 สาว “ลูกอมสื่อรักรูปหัวใจ” ลั่น ชิงแชร์เจ้าตลาดลูกอมคืน ทุ่ม 50 ล้าน จัดกิจกรรมใหญ่ท้ายปี “ฮาร์ทบีท ขอ 3” แจกไอโฟน 6 จำนวน 100 เครื่อง แถมกรี๊ดสนั่นตั๋วแถวหน้าชม concert ดงบังชินกิ ถึง JAPAN พร้อมเตรียมออกแพ็คใหม่ เน้นไปทาง Functional benefits ด้าน Health and Beauty รับวันแห่งความรัก แต่ยังคงเน้นความเป็นรูปหัวใจ พร้อมขยายส่งออกโดยเฉพาะกลุ่ม AEC หลังตลาดส่งออกโตไม่หยุด ปี 2557 “ฮาร์ทบีท” เติบโตขึ้น 5-10% พร้อมสินค้ากลุ่มฟรุตกัมมี่ที่โตเพิ่มอีก 20%

คุณจิตราภา อังคเศกวิไล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เยเนอรัลแคนดี้ จำกัด ผู้ผลิต และผู้นำตลาดลูกอม และเม็ดอมสื่อรักรูปหัวใจแบรนด์ “ฮาร์ทบีท” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มีการปรับโครงสร้างผู้บริหารรุ่นใหม่ขึ้นมา ซึ่งเป็น ทายาทรุ่นที่ 2 ของ “ฮาร์ทบีท”  ซึ่งเมื่อก่อนคุณพ่อ “ไพศาล อังคเศกวิไล” เชี่ยวชาญมากในเรื่องการสร้างสรรค์นวัตกรรมขนม มาตลอดกว่า 30 ปี โดยมีทีมผู้บริหารใหม่คือ ลูกสาว 3 คนคือ คุณจิตราภา อังคเศกวิไล ตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ รับผิดชอบด้านบริหารและโรงงาน และคุณจิราภรณ์ อังคเศกวิไล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ (รับผิดชอบทางด้านการตลาด สินค้านำเข้า ประชาสัมพันธ์) และคุณจินตวีร์ อังคเศกวิไล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส (รับผิดชอบทางด้านการตลาด) ซึ่งแต่ละท่านก็จะมีหน้าที่รับผิดชอบต่างกันไป

D3S_6900และในปี 2557 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ทางบริษัทฯ จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อมอบความรักให้คนไทยส่งท้ายปี 2557 จึงได้จัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายทั้ง Trade Promotion กับ “ฮาร์ทบีท ขอ 3” กับช่องทางร้านค้าโดยสะสมคูปอง ครบ 3 ข้อความ คือ ฮาร์ทบีท, สื่อรัก, รูปหัวใจ รับโทรศัพท์มือถือ iPhone 6 จำนวน 100 รางวัลและกิจกรรมกับ Consumers เพื่อตอบแทนลูกค้าด้วย “ฮาร์ทบีท กรี๊ดดงบัง สนั่น Japan” ส่งซองฮาร์ทบีทขนาดใดก็ได้ ลุ้นบัตรชมคอนเสิร์ตดงบังชินกิ แถวหน้าสุด พร้อมแพ๊คเกจทัวร์ ที่พัก ตั๋วไป กลับกรุงเทพ ญี่ปุ่น จากแอร์เอเชียเอ็กซ์สำหรับ 2 ท่าน จำนวน 3 รางวัล และรางวัลอื่นๆมากมาย iPad Mini และกล้องฟรุ้งฟริ้ง CANON ZR850 อีกด้วย

เป้าหมายที่ฮาร์ทบีทต้องการในการจัดกิจกรรมทางการตลาดครั้งนี้ มีเป้าหมายหลักคือกระตุ้นยอดขาย เป้าหมายอีกอย่างคือได้มีกิจกรรม และการสื่อสารแบรนด์กับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น โดยใช้งบประมาณในการทำตลาดช่วงไตรมาสสุดท้ายประมาณ 50 ล้านบาท

D3S_6953คุณจิตราภา กล่าวต่อไปว่า ภาพรวมของฮาร์ทบีท ในปี 2557 ในตลาดลูกอมมีมูลค่ารวมกว่า 8,000 ล้านบาท ลูกอมฮาร์ทบีทเติบโตขึ้น 5-10% และมีสินค้ากลุ่มฟรุตกัมมี่ที่เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 20 % โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มียอดขายกลุ่มลูกอมในประเทศรวมอยู่ที่ 600ล้านบาท คิดเป็น สัดส่วน 40% และยอดส่งออกถึง 1000 ล้านบาท คิดเป็น 60% สำหรับปี 2558 บริษัทฯ แผนการตลาดออกสินค้าใหม่ เน้นไปทาง Functional benefits ด้าน Health and Beauty และขยายไลน์สินค้าใหม่ๆ กลุ่มกัมมี่ มากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันบริษัทฯ มีการส่งออกสินค้าไป 40 กว่าประเทศ ในกลุ่มหลักจะเป็นทาง Middle East สินค้าลูกอมฮาร์ทบีท และสินค้ากลุ่มกัมมี่ ภายใต้แบรนด์ Sour Punkและ FritC ในประเทศอินเดียได้มีการซื้อ license ลูกอมฮาร์ทบีทไปผลิตที่อินเดียได้สองปีแล้ว ส่วนประเทศSouth Africa ปัจจุบันลูกอมฮาร์ทบีทเป็นลูกอมนำเข้าอันดับ 1 ในตลาด และปีหน้าจะเริ่มซื้อ license ไปผลิตที่นั่นเป็นประเทศที่สอง

คุณจิตราภา กล่าวอีกต่อไปว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภค ในไทยบริโภคลูกอมเปลี่ยนไป หันมาเคี้ยวลูกอมมากขึ้น ทางสินค้าฮาร์ทบีทจัมโบ้สอดไส้จึงมียอดโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางเราทำการออกสินค้านี้ เพื่อ serve กับลูกค้าที่ชอบเคี้ยวลูกอม ทางประเทศตะวันตก หรือประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีการบริโภคลูกอมน้อย ทางเราจะเน้นไปทางสินค้ากลุ่มกัมมี่

“ภาพรวมของตลาดลูกอมในไทย เติบโตน้อย แต่มีการแข่งขันสูง และมีผู้เล่นในตลาดเพิ่มขึ้น ทั้งแบรนด์ต่างประเทศที่มาทำตลาดในไทยเพิ่มขึ้นมาก ส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะติดแบรนด์เป็นหลัก และให้ความสนใจกับรสชาติใหม่ โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดลูกอมรวมกว่า 8000 ล้านบาท แบ่งเป็น Hard Candy และ Soft Candy โดยฮาร์ทบีท เป็นผู้นำกลุ่มตลาด Hard Candy รสผลไม้ซึ่งมี market share อยู่ประมาณ 12% อัตราเติบโต Hard candy บ้านเราเติบโตเล็กน้อย 5-10% ที่เติบโตจะเป็นกลุ่มลูกอมนิ่ม 15-20% ต่างประเทศที่ตลาดยังสามารถเติบโตได้อีกมากจะเป็นแถบอาเชี่ยนบางประเทศเช่น อินโดนิเซีย พม่า ลาว ซึ่งทางเรากำลังบุกตลาดประเทศเหล่านี้อยู่” คุณจิตราภา กล่าวสรุปในตอนท้ายD3S_6734

D3S_6923 D3S_6868