THE PRINCE คนอึดแค้นเกินพิกัด 9 ตุลาคม 2557 ในโรงภาพยนตร์

นักแสดงนำ

BRUCE WILLIS (บรูซ วิลลิส)   รับบท OMAR (โอมาร์)
ผลงานที่ผ่านมา  Die Hard , The Sixth Sense , Looper ,Moonrise Kingdom , The Expendables , Sin City

JOHN CUSACK (จอห์น คูแซค) รับบท SAM (แซม)
ผลงานที่ผ่านมา The Butler , The Frozen Ground , Con Air , The Paperboy , 2012 , The Grand Piano

JASON PATRIC (เจสัน แพทริค)  รับบท PAUL  (พอล)
ผลงานที่ผ่านมา Narc , Speed2 , The Journey of August King , Rush , Cavemen , The Losers

RAIN (เรน) รับบท  MARK (มาร์ค)
ผลงานที่ผ่านมา Ninja Assassin , Speed Racer , R2B : Return to Base

GIA MANTEGNA (เกีย แมนแท็คน่า)  รับบท BETH  (เบธ)
ผลงานที่ผ่านมา The Frozen Ground , In The Land of Woman , 13 Going on 30 , Empire State , Emergo

Curtis “50 Cent” Jackson (เคอร์ติส ฟิฟตี้ เซนต์ แจ็คสัน)  รับบท  The Pharmacy (คนขายยา)
ผลงานที่ผ่านมา Get Rich or Die Tryin , Last Vegas , So You Think You Can Dance (TV Series) , Escape Plan

Poster1เรื่องย่อภาพยนตร์ The Prince

_JE86899.NEFพอล เบรนแนน (เจสัน แพทริค) อดีตหัวหน้ามาเฟียนิวออร์ลีนส์ ได้ถอนตัวออกจากวงการอาชญากรรม เพื่อไปใช้ชีวิตสงบเงียบด้วยการเปิดอู่ซ่อมรถยนต์ในเมืองมิสซิสซิปปี้ที่ห่างไกล แต่เมื่อเบธ (เกีย แมนแท็คน่า)      ลูกสาวของเขาหายตัวไป พอลจึงถูกบีบให้เดินทางกลับมาพบกับบรรดาคู่ปรับเก่าของเขาอีกครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของแองเจล่า (เจสสิก้า ลาวด์ส) เพื่อนของเบธ ทำให้พอลได้เผชิญหน้ากับโอมาร์ (บรูซ วิลลิส) ชายผู้มีอำนาจมากที่สุดในเมือง จนเป็นที่มาของการต่อสู้ที่เปรียบเสมือนการกู้ศักดิ์ศรีคืนจากความผิดพลาดในอดีตของพอล

The Prince คือภาพยนตร์แอ็คชั่นระทึกขวัญ ที่นำแสดงโดย เจสัน แพทริค (ภาพยนตร์ Narc), บรูซ วิลลิส (ภาพยนตร์ Sin City), เจสสิก้า ลาวด์ส (ภาพยนตร์ The Haunting of Molly Hartley) ร่วมด้วยนักแสดงชื่อดัง อาทิ จอห์น คูแซค (ภาพยนตร์ 2012), โจห์นาธอน แชค (ภาพยนตร์ The Legend of Hercules), เกีย  แมนแท็คน่า (ภพาพยนตร์ The Frozen Ground ), เคอร์ติส  “ฟิฟตี้ เซนต์” แจ็คสัน (ภาพยนตร์ Escape Plan) และเรน (ภาพยนตร์ Ninja Assassin) ซูเปอร์สตาร์ชาวเกาหลีชื่อดัง

 

ข้อมูลเบื้องหลังภาพยนตร์ The Prince

เมื่อแรนดัลล์ เอ็มเมทท์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์จอมขยัน อ่านบท The Prince ก็รู้ทันทีว่าตัวเองพบภาพยนตร์ชั้นเยี่ยมที่เต็มเปี่ยมด้วยฉากแอ็คชั่นเข้มข้น ผสมผสานกับความประทับใจในแบบดราม่า ไม่ต่างจากผลงานเรื่องก่อนของเขาอย่าง The Frozen Ground, Catch .44 และ Narc.

_JE82873.NEF“ นักแสดง บรูซ วิลลิส ก็ชอบมัน เช่นเดียวกับเจสัน แพทริค และ จอห์น คูแซค ก็ตบเท้าเข้ามาแจมในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย  นักแสดงเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความพิเศษให้บรรดาตัวละคร และเรื่องราวที่เล่าถึงชายคนหนึ่งผู้ต้องกลับไปเผชิญอดีตอันเลวร้าย เมื่อลูกสาวของเขาหายตัวไปในโลกโสมมที่เขาเคยอยู่มาก่อน”  เอ็มเมทท์กล่าว.

ส่วนอังเดร ฟาบริซิโอ และเจเรมี่ พาสมอร์ คู่หูผู้เขียนบท ก็พยายามอธิบายแนวคิดที่ว่า “เราไม่มีทางหนีตัวตนที่แท้จริงของเราได้ มันทำให้เกิดคำถามในหัวว่า เราตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจริงหรือ เหมือนกับเรื่อง Unforgiven ของคลินท์ อีสต์วู้ด The Prince พูดถึงประเด็นนี้ในแบบทันสมัย” ฟาบริซิโอกล่าว.

พาสมอร์เสริมว่า The Prince คือเรื่องของชายผู้หวนกลับไปเป็นสัตว์ร้ายอย่างที่เขาเคยเป็น เพื่อจะปกป้องสิ่งเดียวที่เขารัก ซึ่งก็คือลูกสาวนั่นเอง”

ผู้กำกับ ไบรอัน เอ. มิลเลอร์จะพาผู้ชมไปสำรวจโลกใต้ดินของแก๊งมาเฟีย ที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและการแก้แค้น เมื่อลูกสาวของเขาหายตัวไป และเขากลายเป็นคนมีค่าหัว พอลจึงจำเป็นต้องกลับไปสู่วงจรเดิมอีกครั้ง “มันนำเราย้อนไปพบบาปกรรมที่เขาเคยทำไว้ ซึ่งเขาเองก็หาทางชำระบาปเหล่านั้น เป็นเรื่องราวพลิกผันที่ดึงดูดผมจริงๆ” มิลเลอร์กล่าว.

 _JE82636.NEF             เจสัน แพทริคกล่าวว่า  “ผมแสดงเป็นพ่อที่จู่ๆ ลูกสาวก็หายไป และพอออกตามหา เขาก็พบชีวิตลึกลับของเธอ เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ผู้ชมจะได้รู้ว่าตัวพ่อก็มีชีวิตที่ลึกลับเหมือนกัน ผมว่าเราทุกคนล้วนมีอดีตบางส่วนที่เราอยากเก็บซ่อน เช่นเดียวกับที่ชายคนนี้ฝังความลับไว้ เพราะเขาอยากให้อะไรๆ เป็นไปในทางที่ดีขึ้น”

เกีย แมนแท็คน่า  ผู้รับบทเป็นเบธ ลูกสาวหัวดื้อของพอล กล่าวเสริมว่า “พอลเป็นพ่อที่เข้มงวด แต่ลึกๆ ข้างในก็ใจดีและอบอุ่น เบธคือแรงผลักดันให้พอลกลับไปนิวออร์ลีนส์ ไปเผชิญหน้ากับศัตรูเก่า”

The Prince คือหนังแอ็คชั่นระทึกขวัญ ที่มีความละเอียดอ่อนด้วย มีความแค้นที่โอมาร์สั่งสมมานานกว่ายี่สิบปี และพัฒนามาเป็นการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ในตอนจบ มีความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกที่เป็นจริงมาก ซึ่งผมว่าทุกคนคงเข้าใจ เช่นเดียวกับคนอีกมาก พอลกับลูกสาวไม่ค่อยจะลงรอยกันนัก แต่พอเกิดเรื่องร้ายขึ้นมา ทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น และเรื่องนี้ยังช่วยปลุกตัวละครทั้งหมดที่ต่างก็มีชะตากรรมของตัวเอง เมื่อผู้ชมดูหนังจบ พวกเขาจะอินไปกับมัน” มิลเลอร์กล่าว.

 

ข้อมูลสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ The Prince

The Prince ใช้สถานที่หลายแห่งทั่วเมืองโมบิล รัฐอาลาบาม่า เป็นโลเกชั่นในการถ่ายทำ “ไบรอันตกหลุมรักโมบิล และคิดว่าเมืองนี้เหมาะกับ The Prince ที่สุด” ผู้อำนวยการสร้าง เอ็มเมทท์กล่าว

_JE81864.NEFผู้กำกับ มิลเลอร์เสริมว่า “การหาโลเกชั่นที่โดดเด่นไม่เหมือนใครเป็นเรื่องสำคัญ สถานที่แต่ละแห่งในเมืองนี้ช่วยยกระดับให้งานของเราดูดีขึ้น ตั้งแต่ตึกสูงของโอมาร์ จนถึงอู่ซ่อมรถของพอลที่เต็มไปด้วยรถยนต์เก๋าๆ จากยุค 60 และ 70”

การเสกสรรปั้นแต่งให้โมบิลกลายเป็นนิวออร์ลีนส์ รวมทั้งการสร้างภาพลักษณ์ให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ออกแบบงานสร้าง เนท โจนส์ “สมัยโบราณโมบิลเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ชื่อเดิมของมันคือ Fort Louis de la Louisiane เราเลยเห็นสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสที่นี่” โจนส์อธิบาย “การเล่าเรื่องคนที่เดินทางกลับบ้านที่นิวออร์ลีนส์ เกี่ยวข้องกับผมโดยตรง เพราะครอบครัวพ่อผมก็มาจากนิวออร์ลีนส์ เมืองนี้มีชีวิตชีวา แต่บางครั้งคนก็ลืมว่ามันมีด้านมืดอยู่ด้วย มันเหมือนเมืองใหญ่ทั่วไปตรงที่ถ้าคุณอยากมีปัญหา คุณก็จะเจอปัญหา”

“ไบรอันเป็นพวกบ้าพลัง ผมเลยต้องเตรียมพร้อมเสมอ” โจนส์เล่าถึงประสบการณ์ครั้งแรกในการทำงานร่วมกับมิลเลอร์ “เขามีมุมมองที่ชัดเจนในทุกฉากทุกตอน จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับผมที่จะทำให้ภาพในหัวของเขาปรากฏออกมาเป็นรูปเป็นร่าง อู่ของพอลคืองานใหญ่ของเรา ผมอยากให้ผู้ชมเห็นว่าพอลต้องทุ่มเทมากขนาดไหน เพื่อที่จะลืมทุกอย่างที่เขาเคยทำในอดีต การทำงานกับรถยนต์ทำให้เขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น เพราะมันบังคับให้เขาต้องจดจ่ออยู่กับงานที่เร่งด่วน เมื่อเทียบกับโอมาร์ เราต้องการให้เห็นความแตกต่างของคนสองคน ทั้งการดำเนินชีวิตและฐานะการเงิน นอกจากนี้ ผมยังใช้รูปแบบที่หลากหลายและสัญลักษณ์ต่างๆ แสดงให้ผู้ชมเห็นว่าต่างฝ่ายต่างมีมุมมองยังไง ซึ่งสุดท้ายความจริงจะเผยออกมาในตอนจบ” ผู้ออกแบบงานสร้างสรุป.

ประวัตินักแสดง

 

เจสัน แพทริค  รับบท พอล เบรนแนน

_JE86990.NEFผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำให้ผู้ชมจดจำเจสัน แพทริคคือ The Lost Boys ซึ่งออกฉายในปี 1987 ตามด้วยการรับบทนำใน The Beast of War (1988), Denial (1990), After Dark, My Sweet (1990), Frankenstein Unbound (1990), Rush (1991), Geronimo: An American Legend (1993), The Journey of August King (1995), Sleepers (1996), Speed 2: Cruise Control (1997), Incognito (1997) และ Your Friends & Neighbors (1998)  ผลงานเด่นเรื่องอื่นของเขา ได้แก่ Narc (2002), My Sister’s Keeper (2009) และ The Losers (2010) รวมทั้งการแสดงละครบรอดเวย์ใน That Championship Season และ Cat on a Hot Tin Roof

บรูซ วิลลิส  รับบท โอมาร์

_JE82452.NEFหลังจากจบการศึกษาด้านการละครที่วิทยาลัยมองต์แคลร์ สเตท เขาก็ก้าวสู่วงการบันเทิงด้วยการแสดงละครเวที และภาพยนตร์โฆษณาหลายเรื่อง ก่อนที่จะสร้างชื่อกับบทนำในละครเวทีของแซม เชพเพิร์ดเรื่อง Fool For Love วิลลิสพิชิตรางวัลเกียรติยศด้านการแสดงมากมาย รวมถึงรางวัลเอ็มมี่และลูกโลกทองคำ จาก ภาพยนตร์Moonlighting  ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาเริ่มต้นเมื่อปี 1987 ด้วยการประชันบทบาทกับคิม เบซิงเจอร์ใน Blind Date และปีต่อมา เขาก็โด่งดังถึงขีดสุดจากบทจอห์น แมคเคลน ใน Die Hard ที่มีภาคต่อตามมาอีก 4 ตอนคือ Die Hard 2 (1990), Die Hard: With a Vengeance (1995), Live Free or Die Hard (2007) และ A Good Day to Die Hard (2013)

ผลงานเด่นเรื่องอื่นของเขามีอีกนับไม่ถ้วน อาทิ The Last Boy Scout (1991), Pulp Fiction (1994) ,The Fifth Element (1997), Armageddon (1998), The Sixth Sense (1999), Unbreakable (2000), Sin City (2005), Lucky Number Slevin (2006),The Expendables (2010), Red (2010), Moonrise Kingdom (2012), The Expendables (2012), Looper (2012), G.I. Joe: Retaliation (2013) และ Red 2 (2013)

 

จอห์น คูแซค รับบท  แซม

_JE86913.NEFคูแซคเริ่มเป็นที่จดจำของผู้ชมจากบทบาทในภาพยนตร์วัยรุ่นยุค 80 อย่าง Sixteen Candles (1984), The Sure Thing (1985) และ Say Anything (1989) จากนั้นเขาก็ตัดสินใจลบภาพลักษณ์หนุ่มหล่อเจ้าสำอางของตัวเอง ด้วยการรับบทที่ท้าทายในภาพยนตร์ชั้นดีมากมายหลายเรื่อง อาทิ Eight Men Out (1988), Shadows and Fog (1991), Bullets Over Broadway (1994), City Hall (1996), Grosse Pointe Blank (1997), The Thin Red Line (1998), Pushing Tin (1999), Being John Malkovich (1999), High Fidelity (2000)

สลับกับการแสดงภาพยนตร์สุดฮิตอย่าง Con Air (1997) และ 2012 (2009) ผลงานเด่นในช่วงหลังของเขา ได้แก่ Serendipity (2001), Identity (2003), Grace Is Gone (2007), 1408 (2007), Martian Child (2007), Hot Tub Time Machine (2010), Shanghai (2010), The Raven (2012), The Paperboy (2012), The Frozen Ground (2013) และ The Butler (2013)

เรน  รับบท มาร์ค

_JE82482.NEFเรน ซูเปอร์สตาร์แห่งวงการดนตรีเกาหลี ที่หันมาเอาดีทางด้านการแสดงโดยประเดิมกับซีรีส์โทรทัศน์เรื่อง Sang-Doo (Let’s Go to School) แล้วก็พิสูจน์ให้ผู้ชมเห็นว่าเขาเป็นนักแสดงฝีมือดีคนหนึ่งในมินิซีรีส์เรื่องFull House       ที่ได้รับความนิยมทั่วเอเชีย จนเป็นใบเบิกทางให้เขาได้แสดงนำใน I’m a Cyborg , But That’s OK ภาพยนตร์แฟนตาซีของผู้กำกับ ปาร์คชานวุค (Oldboy, Stoker) ที่ไปพิชิตรางวัลอัลเฟรด เบาเออร์ จากเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลินปี 2007 จากนั้นเรนก็ก้าวสู่ฮอลลีวู้ดด้วยการร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง Speed Racer (2008) และ Ninja Assassin (2009)

เกีย แมนแท็คน่า รับบท เบธ

ลูกสาวของโจ แมนแท็คน่า นักแสดงชายชื่อดัง เกีย แมนแท็คน่า แสดงภาพยนตร์เรื่องแรก Uncle Nino ในปี 2003 ตามด้วย 13 Going on 30 ในปีต่อมา พอถึงปี 2008 เธอเป็นดารารับเชิญในซีรีส์โทรทัศน์เรื่อง Criminal Minds ซึ่งทำให้เธอเบนเข็มมาเป็นนักแสดงโทรทัศน์อยู่พักใหญ่ โดยมีผลงานอย่าง The Secret Life of the American Teenager (2008-2009), Medium (2009), Gigantic (2010-2011) จนกระทั่งในปี 2011 เธอก็กลับมาแสดงภาพยนตร์อีกครั้งในเรื่อง Emergo ต่อด้วย Getting That Girl (2011), Empire State (2013), The Frozen Ground (2013), Jake Squared (2013), California Scheming (2014) และ Ask Me Anything (2014)

เคอร์ติส “ฟิฟตี้ เซนต์” แจ็คสัน  รับบท คนขายยา

“ฟิฟตี้ เซนต์” หรือ เคอร์ติส แจ็คสัน คือนักดนตรีแร็พชาวอเมริกัน  เขาโด่งดังสุดขีดเมื่อออกอัลบั้ม Get Rich or Die Tryin’ ในปี 2003 รวมทั้งยังพิชิตรางวัลเกียรติยศอีกมากมาย อาทิแกรมมี่ อวอร์ด, บิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ด, เวิลด์ มิวสิค อวอร์ด, อเมริกัน มิวสิค อวอร์ด และบีอีที อวอร์ด จนได้รับการยกย่องจากนิตยสารบิลบอร์ด ให้เป็นศิลปินเพลงแร็พอันดับหนึ่ง และผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดแห่งยุค 2000 ในด้านงานแสดง ฟิฟตี้เซนต์มีผลงานภาพยนตร์เรื่องเด่นอย่าง Get Rich or Die Tryin’ (2005), Home of the Brave (2006), Righteous Kill (2008), Twelve (2010), 13 (2010), Caught in the Crossfire (2010), Freelancers (2012), The Frozen Ground (2013) และ Escape Plan (2013)

ประวัติทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ The Prince

ไบรอัน เอ. มิลเลอร์  ผู้กำกับภาพยนตร์

ไบรอัน เอ. มิลเลอร์จบการศึกษาสาขาการผลิตภาพยนตร์ที่มหาวิทยาลัยแกรนด์ วัลเลย์ สเตท หลังจากใช้เวลาหลายปีในการท่องเที่ยวหาประสบการณ์ เขาก็ย้ายไปอยู่ลอส แองเจลิส เพื่อมุ่งมั่นเขียนบทภาพยนตร์ และมองหาช่องทางในการสร้างผลงาน กระทั่งในปี 2010 มิลเลอร์ก็ได้รับโอกาสให้กำกับ Caught in the Crossfire ที่สร้างจากบทภาพยนตร์ของเขาเอง ตามด้วย House of the Rising Sun (2011), Office Down (2013), The Outsider (2014) และ The Prince เป็นเรื่องล่าสุด

อังเดร ฟาบริซิโอ  เขียนบทภาพยนตร์

ฟาบริซิโอเรียนวิชาการผลิตภาพยนตร์ที่มหาวิทยาลัยซัทเธิร์น แคลิฟอร์เนีย จากนั้นเขาก็เริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิง ด้วยการร่วมอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Special (2006) ตามด้วยสารคดีโทรทัศน์ชุด I Shouldn’t Be Alive (2005-2012) ฟาบริซิโอและเพื่อนสนิท เจเรมี่ พาสมอร์ ร่วมกันเขียนบท The Prince ภาพยนตร์แอ็คชั่นระทึกขวัญที่ถูกนำมาสร้างและออกฉายในปี 2014

เจเรมี่ พาสมอร์  เขียนบทภาพยนตร์

เจเรมี่ พาสมอร์เรียนวิชาการผลิตภาพยนตร์ที่มหาวิทยาลัยซัทเธิร์น แคลิฟอร์เนีย ซึ่งทำให้เขาได้รู้จักกับอังเดร ฟาบริซิโอ ผลงานชิ้นแรกของพาสมอร์คือการเขียนบท/กำกับภาพยนตร์สั้นเรื่อง Crossing (2002) ตามด้วยการร่วมเขียนบท และร่วมกำกับภาพยนตร์เรื่อง Special (2006) ตั้งแต่นั้นมา เขาก็ยึดอาชีพนักเขียนบทภาพยนตร์ โดยมีผลงานตามมาอีกคือ The Cleaner (ภาพยนตร์สั้น – 2009), Red Dawn (2012) และ The Prince (2014)

แรนดัลล์ เอ็มเมทท์  ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์

              แรนดัลล์ เอ็มเมทท์ เรียนด้านการผลิตภาพยนตร์ที่สถาบันวิช่วล อาร์ท เขาอำนวยการสร้างภาพยนตร์มามากกว่า 80 เรื่อง โดยผสานความรู้ด้านการเงิน กับมุมมองในการทำภาพยนตร์เข้าด้วยกัน ผลงานเด่นมีดังนี้ Narc (2002), Wonderland (2003), A Love Song for Bobby Long (2004), The Amityville Horror (2005), 16 Blocks (2006), Lonely Hearts (2006), The Wicker Man (2006), Home of the Brave (2006), King of California (2007), Rambo (2008), Righteous Kill (2008), The Bad Lieutenant: Port of Call – New Orleans (2009), End of Watch (2012), Alex Cross (2012), Broken City (2013), Empire State (2013), The Frozen Ground (2013), Escape Plan (2013), 2 Guns (2013) และ Lone Survivor (2013).