“กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน” เปิดมุมมองความรักครั้งใหม่ จะเป็นอย่างไรถ้าคนกับผีรักกัน ใน “เธอ เขา เรา ผี”

จุดเริ่มต้น-ที่มาที่ไปของ “เธอ เขา เรา ผี”

แรงบันดาลใจก็มาจากที่พี่ไปหลงรักคนในกองถ่ายค่ะ (หัวเราะ) คือเมื่อก่อนเราเป็นช่างแต่งหน้า แล้วเราก็ไปชอบทีมอาร์ตในกองถ่ายคนหนึ่ง การไปกองถ่ายทุกวันมันก็เลยมีความสุข ได้เจอคนที่เราชอบ รู้สึกว่ามันอินความรักในกองถ่ายหนัง ก็เลยอยากเล่าเรื่องนี้ แต่ว่าเรื่องตรงที่มันเป็น “เธอ เขา เรา ผี” เนี่ยมันตามมาจากที่เราจะเล่าเรื่องความรักของคนที่มันอยู่ในกองถ่าย เราก็เริ่มไปโฟกัสกับพระเอกนางเอก แล้วก็โฟกัสกับการตั้งคำถามว่าความรักมันคืออะไรกันแน่ เวลาที่เราไปรักไปชอบใคร มันก็ต้องมีคนที่เราอยากให้เป็น แต่บางทีคนที่เราอยากให้เป็นกับคนที่เรามีอยู่ก็ไม่เหมือนกัน บางทีก็จะเกิดคำถามว่า ตกลงเราจะชอบเขาแต่เขาก็มีข้อเสียที่เราไม่ชอบ หรือบางทีคนที่เราเราชอบทุกอย่างเลย มันจะมีอยู่จริงหรือเปล่า เราจะเลือกรักคนที่มีอยู่จริง มีดีมีเลวบ้าง กับคนที่ดีบริสุทธิ์เลยแต่มันไม่มีอยู่จริง ก็เลยปิ๊งไอเดียนี้ขึ้นมา ถ้ารักมันมีเกิดขึ้น มันก็มีวันดับไป มีวันหายไป มันก็เหมือนกับคนเนี่ยแหละที่มีเกิดมีตายอะไรแบบนี้ค่ะ ความรักก็เหมือนกันเมื่อมันมีเกิดขึ้นมันก็มีตายไปเหมือนกัน

จริงๆ มันก็เวลาที่เราเขียนบทก็มักมาจากตัวเองซะส่วนใหญ่ มันอาจจะคิดจากส่วนร่วมที่เราจะเล่าได้ เราก็จะเล่าได้อย่างเข้าใจ คนดูก็น่าจะเก๊ตกับสิ่งที่เราจะเล่า เราก็หยิบเอามุมที่ทุกคนต้องมีประสบการณ์ร่วมกับเราแน่ๆ เคยมีความรัก เคยมีแฟน เคยมีปัญหากับคนที่เรารัก การที่ทุกคนมีจุดร่วมตรงกันตรงนี้แหละมันทำให้เราเชื่อว่าจุดร่วมของเราตรงนี้กับความรักแบบนี้ ทุกคนก็จะเชื่อกับสิ่งที่เราเล่าได้แบบที่เรารู้สึก

เรื่องราวของ “เธอ เขา เรา ผี”

จริงๆ เรื่องนี้ก็เป็นหนังรัก แต่เป็นหนังรักแบบพี่ที่จะมีอะไรประหลาดๆ นิดนึง พอคนได้ยินชื่อ “เธอ เขา เรา ผี” ทุกคนก็จะพูดว่านี่มันหนังอะไร คือมันจะเป็นหนังผีน่ากลัวเลย หรือจะเป็นหนังรัก หรือหนังตลก มันก็รวมกันทั้งหมดค่ะ เป็นหนังรักที่มีผีแล้วก็ตลกด้วย รวมกันแล้วก็เป็นโรแมนติก-คอเมดี้-เฮอเร่อ เป็นอะไรที่คิดว่าน่าจะถูกปากถูกคอคนไทยนะเพราะว่ามันแซบครบรส ตลก สนุกสนาน รักซาบซึ้ง กินใจ และก็มีผีด้วย

หนังพูดถึงเรื่องราวความรักของคนที่รักกันอยู่และก็มีผีเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็คือตัวนางเอกกับพระเอกเป็นแฟนกัน และก็ทำงานในกองถ่าย แต่ตกลงกันว่าจะไม่บอกใครว่าเป็นแฟนกัน แล้วมันก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น ความรักของทั้งสองคนมันสั่นคลอนเริ่มจางหายไป ทำไปทำมานางเอกก็เริ่มไปมีความรักกับผีซึ่งอยู่ข้างห้องโดยไม่รู้ตัว  เพราะฉะนั้นนางเอกก็จะต้องเลือกระหว่างคนกับผี  คนก็รักเรา ผีก็รักเรา แล้วเราก็รักทั้งสอง เราจะเลือกคนที่ก็ยังเป็นมนุษย์มีดีมีเลวบ้าง หรือว่าผีที่เป็นผู้ชายในอุดมคติแต่มันตายไปแล้ว มันมีตัวตนอยู่จริงไหม มันสัมผัสได้เหมือนกับคนหรือเปล่า ซึ่งมันเป็นเรื่องของนางเอกที่ต้องลุ้นเอาค่ะว่าจะเลือกคนหรือผี 

มีการวางโจทย์ตัวละครยังไงบ้าง

ถึงแม้ว่า “เธอ เขา เรา ผี” มันจะดูแฟนตาซีเพราะว่ามันมีคาแร็คเตอร์ของผีเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ว่าเรื่องนี้มีความเรียลิสติกสูงมาก คือมีความเป็นมนุษย์จริงๆ จะเป็นคาแร็คเตอร์ที่เราสามารถจับต้องได้ พูดกันถึงเรื่องชีวิตคู่ที่ทุกคนเป็น เพราะทั้งนางเอกแม็กกี้ (อาภา ภาวิไล) กับพระเอกนิว (ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) เหมือนกับเป็นผัวเมียกันจริงๆ เลย เพราะฉะนั้นมันจะเป็นความรักแบบจริงๆ อย่างจูบกันแล้วปากเหม็นอะไรอย่างนี้ คือตัวละครจะดูเป็นมนุษย์จริงๆ ไม่ได้เซ็ตขึ้นมา ทำให้รู้สึกว่าคาแร็คเตอร์แบบนี้อยู่ข้างบ้านเรา หรือเป็นตัวเราเองหรือเปล่า คือมันมีความจริงกับการใช้ชีวิตคู่กับใครสักคนอยู่จริงๆ 

พระเอกสุดฮ็อต “นิว ชัยพล” เราจะได้เห็นเขาเป็นแบบไหน

สำหรับ “นิว ชัยพล” ก็จะรับบทเป็น “หรั่ง” เป็นผู้ชายหน้าตาดี เติบโตจากการเป็นเด็กวัด แล้วก็ทำหน้าที่เป็นเด็กอาร์ตในกองถ่าย คาแร็คเตอร์เค้าก็จะยิ้มอย่างเดียว ทำให้ทุกคนรอบข้างมีความสุข เป็นขวัญใจของทุกคน ก็จะมีคนรุมชอบเค้าตั้งแต่เล็กยันโต ก็คือมันก็เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียของคาแร็คเตอร์ของหรั่ง ในแง่ดีคือการเป็นคนเฟรนด์ลี่และน่ารักกับทุกคน แต่คนที่เป็นแฟนก็หนักใจที่ใครๆ ก็ลากแฟนตัวเองไปไหนมาไหนได้หมดเลย

ส่วนตัวนิว ส่วนใหญ่เค้าก็จะเล่นพีเรียดมาอย่าง “จันดารา” ออกแนวย้อนยุค ก็ต้องมีการปรับให้เป็นปัจจุบันมากขึ้น เขาก็จะเป็นเด็กหนุ่มที่มีอยู่จริง ที่สัมผัสได้ นิวเป็นคนที่มีความตั้งใจมาก ทุ่มเท ทำการบ้านมาอย่างดี อย่างที่เราดูจาก “จันดารา” คาแร็คเตอร์เค้าก็จะดูร่าเริงแจ่มใส แต่ตัวจริงก็ไม่ได้เหมือนในหนัง ตัวจริงเค้าจะนิ่งๆ แต่ถ้าเค้าคุยถูกคอกับใครเค้าก็จะคุยเยอะมาก คืออยู่ในกองนิวก็จะเฟรนด์ลี่อยู่แล้ว คือนิวจะตั้งใจมาก เพราะเรื่องนี้ได้เป็นพระเอกเรื่องแรก แล้วก็เป็นหนังเรื่องแรกที่ไม่ต้องเล่นย้อนยุค แล้วสิ่งที่นิวบอกอยู่เสมอว่า พออ่านบทเค้าก็อยากเล่นเลย คือคาแร็คเตอร์มันจะReal จะจริงมาก นิวสามารถพูดกูมึงกับแฟนได้ ไม่จำเป็นต้องพูดคุณผมเหมือนในละคร และเค้ารู้สึกว่ามันจับต้องได้จริงๆ

คาแร็คเตอร์ของนางเอก “แม็กกี้ อาภา”

                “แม็กกี้” รับบทเป็น “ส้ม” เป็นเด็กสาวที่อยู่ข้างวัดที่ไปเจอกับนิว แล้วก็เป็นแฟนกันตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นนิสัยของแม็กกี้คือไม่ไว้ใจคนอื่น เค้าไม่มีครอบครัว สิ่งที่ยึดเหนี่ยวเค้าไว้ก็คือหรั่งคนเดียว เพราะฉะนั้นก็จะเป็นคนที่คิดมาก  นอยด์ตลอดเวลา ห่วงว่าแฟนตัวเองจะนอกใจมั้ย จะมีใครหรือเปล่า กลัวจะสูญเสียสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวที่มี ซึ่งก็น่าจะเป็นคาแร็คเตอร์ของผู้หญิงทั่วไปส่วนใหญ่ ทีนี้พอถึงจุดเปลี่ยนเมื่อที่มีคนอื่นเริ่มมาสนใจตัวเองบ้างมันก็เลยเกิดการลังเลเปรียบเทียบว่าคนที่เราอยู่ด้วยมาตั้งนานทำไมไม่เคยสนใจเราเลย กับไอ้คนที่เราไม่รู้จักแต่ว่าเค้ารักเรา เค้าเอาใจใส่เรา ดูแลเรา เราเลยรู้สึกว่าเราควรที่จะรักคนที่เค้ามารักเราหรือเรารักเค้าดีนะ

ลุคของแม็กกี้ในเรื่องนี้คือเป็นผู้หญิงที่ไม่สวย ซึ่งอย่างแม็กกี้ในหนัง “คน-โลก-จิต” ก็จะดูเปรี้ยว เป็นผู้หญิงที่ร้าย แต่งเข้ม เรื่องนี้ก็แทบไม่แต่งหน้าเลย เขาก็บอกว่าไม่ต้องแต่งหน้าเลยเหรอ เราก็บอกว่าแม็กกี้ต้องเล่นเป็นคนที่ไม่สวย เพราะฉะนั้นต้องแต่งบางที่สุด

การทำงานร่วมกับแม็กกี้ อาภา

ตอนแรกคือเป็นห่วงแม็กกี้มาก เพราะว่าเราไม่เคยร่วมงานกัน  เราก็ดูการแสดงของแม็กกี้จาก “คน-โลก-จิต” บ้าง “สูบคู่กู้โลก” บ้าง แต่ก็ยังไม่ได้เห็นศักยภาพน้องจริงๆ ก็เลยเรียกทั้งสามคน (นิว, แม็กกี้, แม็ค) มาเวิร์กช็อปกันนานมากก่อนที่เปิดกล้องเป็นเดือนๆ คือเราซ้อมกันทุกฉาก ปรากฏว่าตอนถ่ายจริงน้องแม็กกี้สุดยอดที่สุดแล้ว แล้วเราร่วมงานกับนักแสดงมาก็เยอะ แม็กกี้เป็นคนที่ตั้งใจและเปิดกว้างรับฟังตลอด คือพยายามใส่ความเป็นตัวละครตัวนี้เข้าไป คือเขาไม่ได้เป็นผู้หญิงแบบนั้นเลย เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพลิกคาแร็คเตอร์แม็กกี้ เราก็เป็นห่วงว่าแม็กกี้จะร้องไห้ได้หรือเปล่า แล้วปรากฏว่าแม็กกี้ร้องไห้ได้ทุกฉาก แล้วความรู้สึกได้ เล่นดี คือเราเชื่อว่าแม็กกี้เป็นส้มจริงๆ

นักแสดงหน้าใหม่ “แม็ค สตีเว่น ฟูเรอร์” ที่รับบทเป็นผีขี้เหงาในเรื่อง

สำหรับ “แม็ค” รับบทเป็น “เปิ้ล” ผีขี้เหงาซึ่งเป็นผีที่ตายเพราะอกหัก ผิดหวังกับความรักแล้วก็ตาย แล้วก็จมอยู่กับทุกข์ จนมีเหตุการณ์นึงทำให้เค้ามาเจอกับส้มซึ่งเป็นสาวข้างห้อง เปิ้ลก็จะออกแนวผีซื่อ เพราะตอนที่เค้าโดนหักอกเค้าก็จะผิดหวังกับความรักมาก เพราะความที่เค้าเป็นคนที่รักเดียวใจเดียว แล้วเป็นคาแร็คเตอร์ที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ก็จะพูดจาเชยๆ มีคำพูดแบบว่าหลุดมาจากยุคไหน เป็นผีน่ารักๆ แม็คก็จะเป็นหน้าตาหล่อเหลาแบบปกติ แล้วก็มีทั้งผีแบบน่ากลัวด้วยเวลาที่โกรธ เพราะจะถูกแย่งของรัก ที่เลือกแม็คเพราะว่าเห็นกันมาแต่เด็ก ก็เห็นศักยภาพในตัวเขา เราคิดว่าเขาเล่นเป็นผีได้ คือเราเป็นห่วงคาแร็คเตอร์ผีมาก คือถ้าทำให้คนกลัว และไม่มีความรู้สึกร่วมกับผีตัวนี้ก็ไม่ได้ แต่ถ้าเอาคนที่มีความใสซื่อบริสุทธิ์ก็จะเชื่อได้ เพราะแม็คมีความใสซื่อ งงๆ มึนๆ มีความน่ารักอยู่ในตัว และไม่ทำให้คนกลัวเวลาที่เขาเป็นผีด้วย

อารมณ์ผีในเรื่องนี้จะเป็นผีที่แตกต่างจากเรื่องอื่นอย่างไร

จริงๆ แล้วเราคิดไปเองหรือเปล่าว่าผีดุ  เรื่องนี้จะเน้นคอนเซ็ปต์เรื่องความรู้สึกน่ะค่ะ จริงๆ แล้วผีก็เป็นคนนั่นแหละ เพียงแต่ว่าเค้าอาจจะตายไปแล้วแต่ความเป็นคนก็ยังอยู่ ทำไมพอเป็นคนก็น่ารักปกติ แต่เป็นผีแล้วต้องดุ เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ ทุกๆ ที่ที่เราอยู่ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน ทุกที่มีผีหมดเพราะเกิดมาบนโลกก็ต้องตายหมด และคนที่ตายไปก่อนแล้วเนี่ยเค้าก็มีวิญญาณอยู่แต่ก็เชื่อว่าเค้าอยู่อย่างปกติ เค้าก็อยู่ของเค้าและก็ยังมีความรู้สึกว่าเป็นมนุษย์อยู่ มีรัก มีไม่รัก มีชอบ มีไม่ชอบ มีโกรธ มีเกลียด มีหมดเหมือนกัน และเรารู้สึกว่าบางครั้งอยู่ใกล้ตัวเรา เราอาจจะมองไม่เห็นก็ได้ เราไม่รู้ว่าที่บ้านเรา บนเตียงเรานอนคนเดียวอาจจะมีคนมานอนด้วยทุกคืนแล้วเราไม่รู้หรือเปล่า เพราะฉะนั้นเราอาจจะคิดไปเอง ซึ่งผีอาจจะไม่ได้ดุก็ได้ แต่พอเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ว่าเค้าคืออะไร เราก็จะจินตนาการไว้ก่อนว่าผีน่าจะดุ แต่ทั้งที่จริงแล้วอาจจะไม่ดุ อาจเหมือนคนปกติ ซึ่งผีในหนังคือเปิ้ลเนี่ยก็จะเป็นเหมือนคนๆ หนึ่งค่ะ ตอนที่เค้าเป็นคนก็ออกจะซื่อบื้อๆ หลงรักหลงเชื่อคนง่าย ตอนเป็นผีก็จะเป็นแบบนั้น จะหลอกคนมั้ย ก็มีความรู้สึกว่าอยากหลอกนะ แต่หลอกเป็นมั้ย ก็จะเป็นแบบน่ารักๆ มากกว่าค่ะ

การทำงานร่วมกับนักแสดงหน้าใหม่อย่างแม็ค

จริงๆ แม็คก็เป็นนักแสดงหน้าใหม่สำหรับวงการ แต่เป็นหน้าเก่าสำหรับพี่มาก ก็เจอเค้าตั้งแต่ยังเด็กๆ ค่ะ แล้วก็แบบจะมีส่วนร่วมในหนังของพี่ทุกเรื่องตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง นิดๆ หน่อยๆ แต่ว่าเหมือนกับการฝึกเค้าค่ะ  เหมือนปั้นเค้าขึ้นมาเพราะว่าเรารู้สึกว่าน้องเค้ามีศักยภาพในการเป็นนักแสดงได้  และถ้าอยู่ๆ จะจับมาเล่นบทสำคัญเลยจะยาก ก็จะค่อยๆ ให้น้องได้เล่นหนังเราไปทีละเรื่อยๆ ทีละเล็กละน้อยแล้วเรื่องนี้ก็เป็นโอกาสอันดีที่เสี่ยเจียงอนุมัติให้พี่มีเด็กใหม่มานำเสนอได้ ก็เลยคิดถึงแม็ค เรียกลงมาจากเชียงใหม่แล้วเอามาให้เสี่ยดู เสี่ยก็เออมีหน่วยก้านที่ดีแล้วก็เอามาฝึกไปเรียนกับหม่อมน้อยเพิ่ม ซึ่งน้องก็ทำได้ดีหลังจากที่ประสบการณ์ยังน้อย แต่พอมาอยู่ตรงนี้เนื่องจากเค้าคุ้นเคยกับเรา เราก็สอนเค้า อบรมเค้ามา ตลอดระยะเวลาหลายปีก็ทำให้เค้ามีศักยภาพที่ทำให้เค้ามาเล่นหนังได้ เค้าก็เคยเล่นกับพี่มาเล็กๆ  น้อยๆ แต่ยังไม่เคยเล่นแบบเต็มตัวแบบนี้มาก่อน ก็จะมีเกร็งๆ บ้าง กลัวเกินเหตุบ้าง ก็ทำให้เค้าเครียดเวลาอยู่ในกอง แต่ด้วยความที่เค้าไปเรียนกับหม่อมน้อยที่สอนมาอย่างดีจริงๆ เวลาเข้าฉากเค้าก็จะถ่ายทอดออกมาได้ดีจริงๆ สุดท้ายน้องก็ทำออกมาได้อย่างน่ารัก เป็นคาแร็คเตอร์ที่เราต้องการจริงๆ ค่ะ 

ใน “เธอ เขา เรา ผี” ได้ใส่ความแปลกใหม่อะไรที่แตกต่างจากเรื่องก่อนๆ บ้าง

จริงๆ แล้วถ้าภาพจำของพี่เนี่ยทุกคนคิดว่าจะทำหนังกะเทยซะส่วนใหญ่แต่จริงๆ ก็ทำหนังกะเทยมาแค่ 2 เรื่องเองค่ะ คือ ”Insects in the Backyard” ที่โดนแบนแล้วก็เรื่อง “ไม่ได้ขอให้มารัก” แล้วก็เคยทำหนังที่ไม่ใช่หนังกะเทยเนี่ย ก็ “ตายโหง” เอย “ฮักนะ’สารคาม” เอย ก็ไม่ใช่หนังกะเทย และก็ “เธอ เขา เรา ผี” เรื่องนี้เราต้องการบอกว่าไม่ได้ทำหนังกะเทยเพียงอย่างเดียวนะ เราสามารถทำที่เป็นมนุษย์ของผู้ชายผู้หญิงที่อยู่ในสังคมได้เป็นปกติ คือเราไม่ได้เน้นในเรื่องเพศที่ 3 อย่างเดียว เพราะฉะนั้นเนี่ยพี่คิดว่าอยากให้ทุกคนได้สัมผัสเพราะจะเป็นหนังตลาดเรื่องแรกของพี่ที่ไม่ได้เป็นหนังเฉพาะคนกลุ่มๆ หนึ่งไป เรื่องนี้ก็จะแตกต่างแน่นอน คือทุกเรื่องที่เคยทำมาจะออกแนวเล่าแบบหลากหลายชีวิตซะส่วนใหญ่ แต่เรื่องนี้จะเล่าเรื่องของคนสามคน คือจะเล่าตั้งแต่ต้นยันจบยาวเลย โดยไม่ได้มีหลากหลายชีวิตแบบเรื่องที่ผ่านๆ มา แล้วที่ไม่เหมือนมากๆ คือเรื่องนี้จะเป็นหนังหญิงชายที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ แล้วก็มีความเป็นแฟนตาซีเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็มีความเป็นหนังรักที่สมจริงที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้แน่นอน 

 “เธอ เขา เรา ผี” พูดถึงความรักในแง่มุมไหน

คือเรื่องนี้จะพูดถึงความรักในแง่ของความเป็นจริง คือการที่เราจะมีแฟนต้องอยู่กับความเป็นจริง ไม่ใช่ว่าเรามีแฟนแต่ในอุดมคติ อยากให้เป็นแบบนู้น แบบนี้ แต่ลืมไปว่าเค้าก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนเรา เพราะฉะนั้นมนุษย์คนหนึ่งก็มีชั่วมีเลวปะปนกัน เราก็อยากให้ทุกคนตระหนักว่า การที่เราจะมีแฟนก็ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา เรายังมีสิ่งที่เค้าชอบ เค้าก็ต้องมีสิ่งที่เราชอบ เพราะฉะนั้นการจะเป็นแฟนกันมันก็ต้องมีสิ่งที่เข้าใจกันได้

คือความรักของ “เธอ เขา เรา ผี” เนี่ยเราวางไว้ว่ามันน่าจะเป็นอุทาหรณ์หรือเป็นตัวอย่างชีวิตความรัก อยากให้คนในสังคมได้ดูแล้วก็ตั้งคำถามกับความรักของตนเองค่ะว่ามันมาถึงระดับไหนแล้วเพราะเรารู้สึกว่าความรักมันมีหลายเลเวลหลายระดับ มันมีตั้งแต่เริ่มรักกัน รู้สึกยังไงสุดท้ายแล้วมันจะหายไปหรือหมดรักกันแล้วมันรู้สึกยังไง ต้องทำตัวกับความรักที่มันเคยมีแล้วไม่มียังไง เพราะว่าในหนังเรื่องนี้ก็จะพูดหลายครั้งเหมือนกันว่าความรักมันมีการหมดอายุ มันมีรักได้ มันก็มีไม่รักได้ มันมีความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงได้ แล้วพอเราไปยึดติดกับความรักที่มันเกิดขึ้นเนี่ย มันก็จะเกิดเป็นความรับผิดชอบ ความรักมันหมดไปแต่ความรับผิดชอบมันตามมา อาจจะไม่ได้รู้สึกรักกันเหมือนเดิม เราจะทำยังไงกับความรู้สึกเหล่านั้น

ใน “เธอ เขา เรา ผี” นอกจากจะมีตัวละครหลักทั้งสามคนแล้ว ก็ยังมีนักแสดงอีกมากมายมาร่วมสร้างสีสันด้วย

คืออย่าง “พิช” (วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล) เราตั้งใจเลยว่าอยากให้เขามาร่วมงานด้วย แล้วก็อยากให้เขาเล่นอะไรที่ยังไม่เคยเล่นมาก่อนอย่างหนังผีหนังตลก คาแร็คตอร์เขาก็จะนิ่งๆ จะดราม่า เราก็คุยกับมะเดี่ยวว่าอยากได้พิชมาเล่นมาก คืออาจจะไม่ใช่พระเอก แต่ตัวละครที่พิชเล่นคือตัวที่คอยเชื่อม “เธอ เขา เรา ผี” อยู่ด้วยกัน  เราก็อยากให้พิชมาเปลี่ยนคาแร็คเตอร์เป็นโหวกเหวกโวยวาย โปกฮา แล้วเวลาพิชโดนผีหลอกก็คือตลกมากสุดๆ แก๊งพิชก็จะมีกันสามคน – กุ้ง, กั้ง, กุ๊ก คือพวกเขาจะอยู่อพาร์ตเม้นต์เดียวกับส้ม ก็คืออยู่หอพักเดียวกันหมดแต่อยู่กันคนละชั้น คือสนิทกับส้มเพราะทำกองถ่ายเดียวกัน เพราะทั้งสามคนเป็นพวกเอ็กซ์ตร้า เป็นเหมือนตัวประกอบในกองถ่าย ก็เลยสนิทกับหรั่งกับส้ม สามคนนี้แหละที่จะเป็นตัวเชื่อมตัวละครหลัก แล้วก็มี ”พี่อ้วน รีเทิร์น” เจ้าของร้านเสริมสวยก็เป็นสีสันได้ตลกสนุกสนานมาก

นอกจากจะมีเรื่องราวฝั่งอพาร์ตเมนต์แล้ว ก็จะมีอีกฝั่งหนึ่ง คือฝั่งกองถ่ายก็จะมี “โจ๊ก อัครินทร์” ที่จะพลิกคาแร็คเตอร์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งอารมณ์ประมาณเน วัดดาว คือจะเป็นอาร์ตไดเร็คเตอร์ซึ่งเป็นหัวหน้าของหรั่ง คอยปกป้องและช่วยเหลือลูกน้องตลอด รับรองว่าโจ๊กฮาจริง

แล้วก็มี “มิลค์ วณัสม์ณา (มิลค์ ภาวิณี)” อาจเคยเห็นแบบน่ารักใสๆ เรื่องนี้ก็จะพลิกเหมือนกัน เป็นตัวอิจฉาร้ายบริสุทธิ์ เล่นแบบสุดตัวมาก แล้วก็ “พี่เอส คมกฤษ” ก็มาเล่นเป็นผู้กำกับในกองถ่ายซึ่งทุกคนยกให้พี่เอสจริงๆ เล่นขำมากนะ เล่นสุดตัวไม่ห่วงหล่อเลย ทั้งที่ก็ไม่หล่อหรอกแต่ก็ไม่ห่วงอะไรเลย ตลกมากค่ะ แล้วก็มี “พี่ไข่มุก” ซึ่งไม่ต้องเล่นอะไร แค่นั่งนิ่งๆ เฉยๆ ก็ตลกแล้ว

แล้วก็ยังมีนักแสดงรับเชิญที่จะมาสร้างสีสันความสนุกสนานในเรื่องนี้อีกเยอะแยะมากมายจริงๆ ค่ะ ต้องไปดูค่ะ สนุกแน่นอน

ฉากที่โดนใจผู้กำกับ

จริงๆ ก็ประทับใจโดนใจทั้งเรื่องค่ะ อย่างฉากที่เปิ้ลอกหักก็ประทับใจ คือเราจะบอกทุกคนเสมอว่าการมีความรัก มันมีวันหมดอายุ มันไม่ได้แปลว่าที่ทุกคนรักกันแล้วจะต้องอยู่ด้วยกันไปจนวันตาย คนรักกัน เมื่อไหร่ที่มันหมดรักแล้วไม่ยอมพูดความจริงกัน มันจะมีแต่ความทุกข์ เพราะฉะนั้นซีนนั้นเนี่ย มันจะบอกว่าการมีความรักมันก็มีวันหมดอายุนะ ก็บอกกันไปตรงๆ อย่ามัวมานั่งรับผิดชอบความรักที่มันเคยเกิดขึ้นเลย เป็นซีนที่เราประทับใจมากซึ่ง มันเจ็บปวดมั้ยในการเลิกกัน มันก็เจ็บปวด แต่เราก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น  

ฉากที่ถือว่ายากในมุมมองของผู้กำกับ

น่าจะเป็นฉากที่ถ่ายบนดาดฟ้า เป็นฉากที่ส้มกำลังจะฆ่าตัวตาย ซึ่งมันเป็นทั้งฉากที่กำลังเป็นจุดเริ่มต้น คือเป็นฉากที่ส้มได้เจอกับผีเปิ้ล มันยากเพราะหนึ่งอุปกรณ์มันเยอะแล้วก็ต้องถ่ายอยู่บนดาดฟ้า และสองคือต้องทำงานแข่งกับเวลาพระอาทิตย์คือพี่อยากได้แบบพระอาทิตย์ใกล้ตก แล้วมันก็เป็นฉากที่ต้องใช้อารมณ์เยอะมากแล้วก็มีไดอะล็อกที่ยาว แล้วต้องถ่ายลองเทคด้วย ต้องร้องไห้ในจังหวะที่ถูกต้อง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องได้ภาพแสงพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกด้วย  คือมันยากสุดแล้วทั้งจังหวะ ทั้งเวลา ทั้งอารมณ์ในฉาก ฉากนี้เลยต้องถ่าย 2 รอบค่ะ มันยากแต่ว่าผลลัพธ์ที่ได้มันสวยงาม ทั้งความรู้สึกทั้งภาพทั้งการแสดงด้วย

กดดันหรือเปล่าที่หนังของเราส่วนใหญ่ได้รับรางวัล

ส่วนตัวก็ไม่กดดัน เพราะเราเชื่อว่าหนังทุกเรื่องมีคาแร็คเตอร์ของตัวเอง เวลาเราทำหนังเรื่องหนึ่ง มันไม่ได้คิดว่าทำเพื่อให้ได้รางวัลอยู่แล้ว เราทำเพราะอยากเล่าเรื่องนี้จริงๆ เรื่องของรางวัลเป็นสิ่งที่นอกเหนือจากความตั้งใจอยู่แล้ว เพราะคงไม่มีใครที่ทำหนังแล้วคิดว่าจะได้รางวัล แล้วเราก็ไม่เคยเอาความสำเร็จเรื่องก่อนๆ มาตัดสินหนังที่กำลังทำอยู่ เพราะเราเชื่อว่าหนังแต่ละเรื่องก็จะมีความเป็นธรรมชาติของมันอยู่แล้ว แล้วเราก็ทำหนังอย่างไม่กดดัน ทำหนังอย่างมีความสุขกับทีมงานที่ทำกันมานาน อยากบอกว่าถ่ายหนังเรื่องนี้มีความสุขที่สุดเลย 

ความประทับใจกับผลงานล่าสุด “เธอ เขา เรา ผี” นี้

เราประทับใจมากกับหนังเรื่องนี้ กับนักแสดง คือนักแสดงเรื่องนี้เยอะมาก แล้วก็มารับเชิญกันเยอะมาก ทั้งนักแสดงหลัก นักแสดงนำ คือทุกคนให้เรากันเต็มร้อยมาก คือหนังเราอาจจะถ่ายไม่เยอะ แต่ทุกคนทุ่มเทกันแบบเต็มร้อย โดยเฉพาะน้องแม็ค, แม็กกี้, นิว คือทุกคนก็อยากใช้ศักยภาพของตัวเองกันอย่างเต็มที่ หนังมันก็เลยออกมาสนุกพลุ่งพล่านมาก 

เสน่ห์ของหนัง “เธอ เขา เรา ผี”

เราคิดว่าเสน่ห์อยู่ที่มันเป็นเรื่องที่ทุกคนจับต้องง่าย ทุกคนมีความรัก ทุกคนมีปัญหากับแฟน ทุกคนไม่เข้าใจตัวเองว่าเวลามีแฟน ต้องรำคาญขนาดนั้นด้วย คือเราอยากให้คนดูรู้สึกว่าไม่ได้ดูหนัง แต่ดูชีวิตตัวเองอยู่ เพราะด้วยเนื้อเรื่อง และตัวละคร มันดูใกล้ชิดกันไปหมดเลย แนวของหนังเรื่องนี้ก็จะเป็นแนวโรแมนติก-คอเมดี้-เฮอเร่อ แน่นอนว่าเป็นหนังรักก็มีความโรแมนติก แล้วมีความตลกโปกฮาด้วยตัวละครที่ทุกคนเป็นอยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ออกผีๆ น่ากลัวหน่อยๆ แต่ไม่ได้ออกมาทั้งเรื่อง คือเป็นเหมือนอารมณ์แนวใหม่ เป็นหนังรักโรแมนติกแต่น่ากลัวแฝงอยู่ คือผสมกันแล้วลงตัวแน่นอน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะเป็นเรื่องแรกที่จะสื่อสารกับคนดูทั้งประเทศเลยว่า เรากำลังพูดเรื่องสิ่งที่เป็นสากล เป็นพื้นฐานของความรักความเข้าใจซึ่งทุกคนน่าจะสัมผัสได้อยู่แล้ว

ก็อยากฝากหนังเรื่องนี้นะคะคือมั่นใจว่าหนังสามารถตอบโจทย์ทุกคนได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก ความสนุกสนาน ความซาบซึ้ง แล้วก็เรื่องของผีด้วย แต่เชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะเปิดมุมมองอะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับความรักแล้วก็เกี่ยวกับผีให้ทุกคนได้สัมผัสกันด้วย เป็นหนังรักอีกรสชาติหนึ่งซึ่งจะทำให้ทุกคนดูแล้วสนุกสนานประทับใจ ไปกับเนื้อเรื่องได้ แล้วที่สำคัญก็คือสามารถเก็บไปตั้งคำถามกับความคิด ความรัก การใช้ชีวิตของเราด้วยว่าเรากำลังมีความรัก หรือเราจะไปมีความรัก หรือเราหมดรักใครซักคนแล้วเนี่ยเราจะรับมือกับเค้ายังไง คิดว่าหนังเรื่องนั้น่าจะตอบโจทย์ความรักทุกรูปแบบ ก็อยากให้ไปลองดูกันค่ะ 13 มีนาคมนี้นะคะ “เธอ เขา เรา ผี” ทุกโรงภาพยนตร์ค่ะ็กกด