Risen เป็นเรื่องราวอีพิคเกี่ยวกับการฟื้นคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูคริสต์ ที่บอกเล่าจากมุมมองของผู้ไร้ศรัทธา คลาวิอุส (โจเซฟ ไฟน์) นายทหารชาวโรมันผู้ทรงอำนาจ และลูเชียส (ทอม เฟลตัน) คนสนิทของเขา ได้รับมอบหมายให้ไขปริศนาสิ่งที่เกิดขึ้นกับพระเยซู (ที่ในเรื่องถูกเรียกด้วยชื่อภาษาฮิบรูว์ว่า โยชัว) ในช่วงเวลาหลายสัปดาห์หลังจากพระองค์ถูกตรึงกางเขน เพื่อกำจัดข่าวลือเรื่องการฟื้นคืนพระชนม์ชีพของพระเมสซิยาห์ และป้องกันไม่ให้เกิดการลุกฮือก่อความไม่สงบขึ้นในเยรูซาเล็ม

Risen นำแสดงโดยโจเซฟ ไฟน์ (Shakespeare in Love), ทอม เฟลตัน (Harry Potter), ปีเตอร์ เฟิร์ธ (The Hunt for Red October; “MI-5”) และคลิฟฟ์ เคอร์ติส (“Fear the Walking Dead”)

โคลัมเบีย พิคเจอร์สและแอลดี เอนเตอร์เทนเมนต์ ร่วมกับแอฟเฟิร์ม ฟิล์มส์, ลิดเดล เอนเตอร์เทนเมนต์และแพทริค ไอเอลโล โปรดักชัน ภูมิใจเสนอ Risen กำกับโดยเควิน เรย์โนลด์ส บทภาพยนตร์โดยเควิน เรย์โนลด์สและพอล ไอเอลโลและเรื่องราวโดยพอล ไอเอลโล อำนวยการสร้างโดยมิคกี้ ลิดเดล, แพทริค ไอเอลโลและพีท ชิไลมอน ควบคุมงานสร้างโดยโรเบิร์ต ฮูเบอร์แมนและสก็อต ฮอลรอยด์ กำกับภาพโดยลอเรนโซ ซีนาโทเร ออกแบบงานสร้างโดยสเตฟาโน มาเรีย ออร์โทลานี ลำดับภาพโดยสตีเวน เมอร์โควิช, เอซีอี ออกแบบเครื่องแต่งกายโดยเมาริซิโอ มิลเลนอตติ ควบคุมงานวิชวล เอฟเฟ็กต์โดยราฟา โซลอร์ซาโน ดนตรีประพันธ์โดยโร้ค บานอส คัดเลือกนักแสดงโดยจอห์น ฮับบาร์ดและรอส ฮับบาร์ด

ความยาว 1 ชั่วโมง 48 นาที

เกี่ยวกับงานสร้าง

               ตำนานการถูกตรึงกางเขนและการฟื้นคืนพระชนม์ชีพของโยชัวได้ถูกนำเสนอบนจอเงินมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้น ในตอนที่แอลดี เอนเตอร์เทนเมนต์ทาบทามเควิน เรย์โนลด์สให้สร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์พลิกโลกเมื่อ 2,000 ปีก่อน มือเขียนบท/ผู้กำกับผู้นี้ก็ตั้งใจที่จะนำเสนอมุมมองใหม่ให้กับเรื่องราวนี้

               “เราอยากจะทำสิ่งที่แตกต่างจากที่เคยมีมาก่อน ผมก็เลยคิดไอเดียที่ว่า Risen ควรจะถูกบอกเล่าในรูปแบบของเรื่องราวนักสืบน่ะครับ” เขาเล่า

               เรย์โนลด์ส ผู้ก่อนหน้านี้เคยกำกับภาพยนตร์แอ็กชันบล็อกบัสเตอร์เรื่อง Robin Hood: Prince of Thieves และอำนวยการสร้างมินิซีรีส์ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมีเรื่อง Hatfields & McCoys คุ้นเคยกับตำนานที่โด่งดังนี้เป็นอย่างดี “เราอยากให้หนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ อลังการ แต่ถูกบอกเล่าจากมุมมองของตัวละครตัวเดียวครับ” เขาอธิบาย

               คอนเซ็ปต์นี้ถูกใจผู้อำนวยการสร้างและผู้ก่อตั้งแอลดี มิคกี้ ลิดเดล ผู้พิจารณาบทภาพยนตร์หลายบทและผู้กำกับหลายคนหลังจากที่เริ่มเดินหน้าโปรเจ็กต์นี้เมื่อแปดปีก่อน “ผมชื่นชอบไอเดียของเควินที่ว่าผู้ชมของเราน่าจะได้สัมผัสกับสิ่งที่โบราณและศักดิ์สิทธิ์ราวกับว่ามันเป็นของใหม่” ลิดเดลกล่าว “วิธีการของเควินทำให้คุณมีโอกาสได้เอาตัวเองไปแทนคลาวิอุส ทหารชาวโรมันผู้เคลือบแคลงใจ ผู้สับสนกับสิ่งที่ไร้เหตุผลทั้งหลายที่เกิดขึ้นในจูเดีย เขาไม่ได้ตามหาพระศพของพระเยซูด้วยจุดมุ่งหมายทางการเมืองหรือศาสนา เขาก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้นเองครับ”

นักสืบผู้เคลือบแคลงใจ

               ตัวเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้คือโจเซฟ ไฟน์ในบทคลาวิอุส นักแสดงมากความสามารถชาวอังกฤษ ผู้ซึ่งมีผลงานหลากหลายตั้งแต่ภาพยนตร์รางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเรื่อง Shakespeare in Love ไปจนถึงมินิซีรีส์ยอดนิยมเรื่อง “Hercules” ชื่นชมแนวคิดของเรย์โนลด์สเกี่ยวกับการเล่าเรื่องตามพระคัมภีร์ใหม่ในทันที “ตอนที่ผมอ่านบทหนังเรื่องนี้ ผมก็ชื่นชมความจริงที่ว่าผมเพิ่งได้อ่านเรื่องราวจากคัมภีร์ไบเบิลที่เดินเรื่องเหมือนปริศนาฆาตกรรมที่ไม่ธรรมดา” ไฟน์กล่าว “บทหนังเรื่องนี้ทำให้ผมพลิกหน้าอ่านไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่ามันจะจบยังไง เพราะเมื่อคุณได้เห็นมันในมุมมองใหม่ การฟื้นคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูจริงๆ แล้วก็เป็นสุดยอดของปริศนาฆาตกรรมเลยนะครับ”

               โอกาสในการได้ถ่ายทอดการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกตะลึงของคลาวิอุสในช่วงเวลาสามวันสำคัญเป็นสิ่งที่เย้ายวนเกินห้ามใจสำหรับไฟน์ “ตอนที่เราได้พบกับคลาวิอุสครั้งแรกตอนต้นเรื่อง เขาเป็นนายทหารผู้ทะเยอทะยาน เคร่งครัด ผู้รับใช้กองทัพโรมันมา 25 ปีแล้ว เขาก็เลยถูกหล่อหลอมให้มีแนวคิดแบบเดียวครับ” นักแสดงหนุ่มตั้งข้อสังเกต “แต่แล้วการผจญภัยครั้งนี้ทำให้คลาวิอุสมาถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขารู้สึกตัวว่าอาจมีชีวิตที่นอกเหนือจากทุกสิ่งที่เขาเคยรู้มาก่อน สิ่งที่อยู่นอกเหนือสภาวการณ์ก่อนหน้านี้ของเขา หลังจากที่ทำให้ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระเมสซิยาห์ผู้นี้พ้นจากความทุกข์ คลาวิอุสกลับได้เผชิญหน้ากับโยชัวอีกครั้งในตอนท้ายเรื่องเมื่อตอนที่พระองค์ฟื้นคืนพระชนม์ชีพ นั่นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญครับ”

               ผู้กำกับเรย์โนลด์สมองไฟน์ว่าเป็นตัวเลือกที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับบทคลาวิอุส “โจเซฟมีความองอาจแต่ก็มีความเปราะบางที่จำเป็นต่อตัวละครตัวนี้ด้วยครับ” เรย์โนลด์สกล่าว “เขาเปลี่ยนจากการเป็นนายทหารโรมันที่ทรงประสิทธิภาพ เป็นทหารที่มีความเป็นทหารสูง ไปเป็นคนที่ตั้งคำถามกับความเชื่อและจิตวิญญาณของตัวเอง โจเซฟมีความสามารถในการถ่ายทอดเรื่องพวกนั้นออกมาได้ครับ”

               ไฟน์ใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับตำรวจนักสืบเพื่อเรียนรู้เทคนิคการสอบสวน “วิธีการสวมบทคลาวิอุสจริงๆ ของผมมาจากการนั่งลงคุยกับนักสืบว่าการสอบสวนผู้ต้องสงสัยเป็นยังไง” ไฟน์เล่า “แม้ว่านี่จะเป็นเรื่องราวจากคัมภีร์ไบเบิล แต่ผมก็อยากจะถ่ายทอดสิ่งที่คลาวิอุสต้องทำอย่างสมจริง เพราะผมมองเรื่องราวนี้ว่าเป็นเรื่องราวนักสืบที่มืดหม่นจริงๆ ครับ”

การตามหาโยชัว

               แน่นอนว่าปริศนาหลักใน Risen เกี่ยวข้องกับการสิ้นพระชนม์และปาฏิหาริย์ในการฟื้นคืนพระชนม์ชีพของโยชัว ผู้ที่รับบทนี้คือนักแสดงมากประสบการณ์คลิฟฟ์ เคอร์ติส ผู้ก่อนหน้านี้เคยร่วมงานกับเรย์โนลด์สมาแล้วในภาพยนตร์ปี 1994 เกี่ยวกับเกาะอีสเตอร์เรื่อง Rapa Nui “ในตอนที่ผู้อำนวยการสร้างแพทริค ไอเอลโลเสนอชื่อคลิฟฟ์ขึ้นมา ผมก็ปิ๊งไอเดียขึ้นทันทเพราะผมรู้ว่าเขาสามารถแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมและเข้มข้นแค่ไหน” ผู้กำกับกล่าว “คลิฟฟ์มีรูปแบบการแสดงเมธ็อดแบบโรเบิร์ต เดอ นีโร ดังนั้น กระบวนการส่วนหนึ่งของเขาใน Risen คือการไม่พูดคุยกับใครเลย การทำตัวเงียบกริบในกองถ่ายทำให้มีบางสิ่งเกิดขึ้นในตัวเคอร์ติส ที่นักแสดงที่รับบทอัครสาวกตอบสนองด้วยจริงๆ และผมคิดว่ามันก็ปรากฏให้เห็นในหน้าจอด้วยครับ”

               แนวทางของเคอร์ติสเข้ากันได้ดีกับตัวละครตัวนี้ตามที่เขียนไว้ในบท “ความท้าทายอย่างหนึ่งสำหรับบทนี้คือเขาไม่ค่อยมีบทพูดครับ” เรย์โนลด์สตั้งข้อสังเกต “นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้องการคนที่จะสามารถนำเสนอความเป็นโยชัวออกมาได้โดยไม่ต้องอาศัยคำพูดน่ะครับ”

               เคอร์ติส ผู้มีเชื้อสายเผ่าเมารี ชนเผ่าพื้นเมืองของนิวซีแลนด์ มองบทนี้ว่าเป็นความท้าทายที่สุดในชีวิตของเขา “ไม่ว่าคุณจะเชื่อรึเปล่าว่าเขาเป็นบุตรพระผู้เป็นเจ้ารึเปล่า แต่โยชัวก็เป็นมนุษย์ที่น่าทึ่งครับ” เขากล่าว “เขาเปลี่ยนแปลงแนวทางที่มนุษยชาติมองชีวิต มันก็เลยเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับบทนี้ ผมได้แต่สวมบทนี้ด้วยความซาบซึ้งและถ่อมตนครับ”

               ในการทำให้แน่ใจว่าฉากที่พวกเขาแสดงร่วมกันจะเต็มไปด้วยความตึงเครียด เคอร์ติสและไฟน์หลีกเลี่ยงการสบตากันระหว่างการถ่ายทำนานสี่เดือนเว้นแต่ตอนที่กล้องเดิน “เราไม่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเลยและผมคิดว่ามันทำให้การพบกันในเรื่องของเราเต็มไปด้วยพลังงานและน่าตื่นเต้นมากขึ้นครับ” ไฟน์เล่า “เรามักจะอยู่ในห้องเดียวกันแต่ไม่เคยสนทนาพาทีกัน ซึ่งนั่นทำให้เรื่องน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นในตอนที่เราได้พบกันในเรื่อง ทั้งด้วยคำพูดจาและอารมณ์ครับ”

จากพ่อมดน้อยสู่นายทหารโรมันผู้ทะเยอทะยาน

               บท ลูเชียส คนสนิทของคลาวิอุส เป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญสำหรับทอม เฟลตัน ผู้ที่ผู้ชมทั่วโลกรู้จักในฐานะดราโก้ มัลฟอย คู่ปรับเพื่อนร่วมชั้นผมแพลตินัมบลอนด์ของแฮร์รี พอตเตอร์

               เรย์โนลด์สได้ทำการออดิชันนักแสดงหนุ่มจำนวนมากสำหรับบทลูเชียส แต่เขาก็รู้สึกได้ตั้งแต่เริ่มแรกแล้วว่า เฟลตันจะเป็นนักแสดงที่เหมาะกับงานนี้ “ทอมเป็นเซอร์ไพรส์ที่วิเศษสุดสำหรับผม” เขาบอก “เราได้พิจารณาคนจำนวนมากสำหรับบทนี้และตอนนั้น เขายังไม่มีชื่อด้วยซ้ำ เราเรียกเขาว่า ‘คนสนิท’ แค่นั้นเอง แต่พอทอมเข้ามา เขาก็ทำให้ตัวละครตัวนี้เป็นมากกว่าที่เป็นอยู่ในหน้ากระดาษ เขามีคุณสมบัติโดดเด่นแบบที่ดาราที่แท้จริงมี ซึ่งทำให้ลูเชียสโดดเด่นขึ้นมาจริงๆ ครับ”

               เฟลตันรู้สึกสนใจแนวทางแบบนิยายในการถ่ายทอดเรื่องราวที่เป็นที่คุ้นเคยดีของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ในทันที “มันรวมเรื่องราวจากคัมภีร์ไบเบิลที่ผมได้เรียนรู้จากโรงเรียนวันอาทิตย์สมัยผมยังเล็กๆ ผ่านทางมุมมองของทหารโรมันที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ครับ” เขากล่าว “มันน่าสนใจที่จะได้รับรู้ถึงมุมมองว่าการได้อยู่ในจูเดียระหว่างเหตุการณ์สำคัญๆ พวกนี้เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไรบ้าง”

               นอกจากนี้ นักแสดงชาวอังกฤษยังชื่นชอบความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวละครของเขา ซึ่งเป็นทหารใหม่ชนชั้นสูงที่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง “ผมมองลูเชียสว่าเป็นทหารใหม่ที่เพิ่งมาจากกรุงโรมหมาดๆ” เฟลตันอธิบาย “พ่อของเขาเป็นเพื่อนของพอนทิอุส พิลาต เขาก็เลยสามารถดันตัวเองมาอยู่ในตำแหน่งดีๆ ได้แทนที่จะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนที่ทหารส่วนใหญ่ทำครับ”

               แต่แม้ว่าลูเชียสจะขาดประสบการณ์ สิ่งที่เขามีมากล้นเหลือคือความทะเยอทะยาน เขามุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ทุกอย่างเท่าที่ทำได้จากผู้บังคับบัญชาของเขาเพื่อที่เขาจะได้เลื่อนยศสูงขึ้น “หลังจากดูคลาวิอุสระหว่างฉากสอบสวน เขาก็เปลี่ยนจากการไม่รู้อะไรเลยไปสู่การขัดเกลาทักษะทหารของตัวเอง จนกลายเป็นนักสืบด้วยตัวเองครับ”

               ความสัมพันธ์ในเรื่องระหว่างนายทหารหนุ่มและผู้เป็นเหมือนอาจารย์ของเขาก็คล้ายคลึงกับความสัมพันธ์ระหว่างเฟลตันและไฟน์ในกองถ่ายเช่นกัน เฟลตันกล่าวว่า “โจฉลาดสุดๆ เขามีคารมคมคายและเข้าใจภาษาอังกฤษอย่างดี และเขาก็เป็นคนที่เข้าถึงได้ง่ายมากๆ ด้วย ในฉากที่ผมไม่มีไดอะล็อคเท่าไหร่ เขาก็ช่วยผมในการหาช่วงเวลาที่เราจะสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันขึ้นมาได้ครับ”

               นอกจากนี้ เขายังได้รับความช่วยเหลือในการรับบทคนสนิทของนายทหารโรมันโบราณจากโลเกชันถ่ายทำที่น่าตื่นตาตื่นใจของภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย “สถานที่ถ่ายทำจำนวนมากที่เราไปเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ของโรมันและสุสานโบราณจริงๆ ครับ” นักแสดงหนุ่มกล่าว “การสวมชุดที่วิเศษสุดพวกนี้และได้แสดงในโลเกชันที่วิเศษสุดพวกกนี้ทำให้การถ่ายทำ Risen เป็นประสบการณ์ที่เหมือนถูกดึงเข้าไปในโลกนั้นจริงๆ เลยครับ”

เหล่าอัครสาวก

               ในการเขียนบทและเลือกนักแสดงสำหรับบทอัครสาวก เรย์โนลด์สรู้สึกว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องกำหนดบุคลิกและลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันให้กับอัครสาวกแต่ละคน “ผมอยากจะสร้างอัครสาวกที่คุณสามารถเข้าถึงได้ในฐานะคนที่มีนิสัยแปลกประหลาดของตัวเอง และบางคนก็แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ขันด้วยซ้ำไป” เขากล่าว “สำหรับผม มันเป็นเรื่องสำคัญในการทำให้อัครสาวกให้ความรู้สึกเหมือนคนจริงๆ ไม่ใช่รูปเคารพที่เหินห่างน่ะครับ”

               ในการนำเสนอการเดินทางของอัครสาวกจากกรุงเยรูซาเล็มไปสู่ทะเลกาลิลี บรรดานักแสดงที่รวมถึงมาริโอ ทาร์ดอน ผู้รับบท แอนดรูว์ ได้รับการช่วยเหลือจากลักษณะภายนอกของบทนี้ “ผมจะสวมวิก แล้วพวกเขาก็จะละเลงโคลนทั่วตัว มือและเท้าของผม” เขาเล่า “การถ่ายทำในทะเลทรายและหาดทรายที่น่าทึ่งพวกนี้เมคเซนส์สำหรับตัวละครตัวนี้ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถแสดงได้อย่างสมจริงจริงๆ ครับ”

สำหรับไฟน์ การมีปฏิสัมพันธ์กับนักแสดงผู้รับบทสานุศิษย์ของโยชัวเป็นการผ่อนคลายที่น่ายินดีจากสิ่งแวดล้อมแบบทหารของตัวละครของเขา “พวกอัครสาวกเต็มไปด้วยความสุขอย่างเหลือเชื่อครับ” เขากล่าว “ในบทคลาวิอุส ผมใช้เวลาขลุกอยู่ในค่ายทหารและภายใต้แรงกดดันของกรุงโรม จนเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมได้เข้าฉากกับพวกอัครสาวก มันจะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการชำระล้างครับ มันเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างจะน่าทึ่งที่ได้เข้าไปในดินแดนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งในฐานะตัวละครและกับคนพวกนี้ในฐานะนักแสดงครับ”

ผู้ที่ได้เป็นหนึ่งในผู้ใกล้ชิดกับโยชัว เช่นเดียวกับอัครสาวกทั้งหลาย คือแมรี แม็กดาลีน อดีตโสเภณี ผู้รับบทโดยมาเรีย บอตโต้นักแสดงหญิงชาวสเปนเล่าถึงการสานสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมแสดงของเธอระหว่างการพบปะสังสรรค์กันอย่างไม่เป็นทางการในวันอาทิตย์ ที่มีคลิฟฟ์ เคอร์ติสเป็นผู้จัดขึ้น “พวกเราบางคนอ่านบทกวี บางคนก็ร้องเพลง” เธอกล่าว “คลิฟฟ์เปลี่ยนพวกเราให้กลายเป็นพวกเดียวกันด้วยการพบปะกันพวกนั้น นักแสดงที่รับบทอัครสาวกแต่ละคนล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง และทุกวัน พวกเขานำพาทั้งพลังงานและความรักมากมายมาสู่กองถ่ายค่ะ”

สายสัมพันธ์ระหว่างแมรี แม็กดาลีนและโยชัวเป็นที่ประจักษ์ชัดสำหรับบอตโต้ตั้งแต่นาทีแรกที่เธอได้อ่านบทภาพยนตร์เรื่อง Risen ที่เขียนขึ้นโดยเรย์โนลด์สและมือเขียนบทร่วมพอล ไอเอลโล “ตอนที่ฉันอ่านบทหนังเรื่องนี้ ฉันก็ทึ่งกับความรักระหว่างแมรี แม็กดาลีนและโยชัว และการที่พวกเขาต่อสู้เพื่อนำความรักนั้นมาสู่โลกใบนี้ค่ะ” เธอกล่าว “นั่นเป็นองค์ประกอบที่ฉันรักมากที่สุดเกี่ยวกับเรื่องราวนี้ค่ะ”

การกลับมอลต้า

               Risen ถ่ายทำในสเปนและมอลต้า ประเทศหมู่เกาะที่มีภูมิประเทศงดงามและสุสานโบราณ ที่ก่อนหน้านี้เคยถูกใช้เป็นโลเกชันถ่ายทำสำคัญสำหรับภาพยนตร์ต่อสู้ปี 2002 ของเรย์โนลด์สเรื่อง The Count of Monte Cristo มาแล้ว ในขณะที่ทิวทัศน์ที่งดงามของมอลต้าเป็นฉากหลังที่น่าตื่นตาตื่นใจ ความร้อนกลับกลายเป็นอุปสรรคที่น่าหวาดหวั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนสิงหาคม ที่ทีมผู้สร้างถ่ายทำฉากตรึงกางเขนตลอดสี่วันที่ร้อนชื้นและอุณหภูมิสูงถึง 90 องศาฟาเรนไฮต์

               “ทีมงานเหงื่อท่วมตัวครับ” ลิดเดลเล่า “มันร้อน สกปรก เราไม่ได้ใช้ช่างทำผมหรือช่างแต่งหน้าหรืออะไรแบบนั้นเลย”

               เรย์โนลด์สยืนกรานที่จะถ่ายทำฉากแอ็กชันของ Risen “ด้วยกล้อง” แทนที่จะอาศัยวิชวล เอฟเฟ็กต์แบบดิจิตอล “เราไม่ได้ใช้ CGI ซักเท่าไหร่เพราะเราอยากจะสร้างความรู้สึกที่ว่าเหตุการณ์พวกนี้เกิดขึ้นจริงๆ” ลิดเดลอธิบาย “คลิฟฟ์ เคอร์ติสอยู่บนกางเขน ห้อยอยู่บนนั้นหลายวันจริงๆ แล้วเราก็เข้าไปสุสานที่เคยถูกใช้ระหว่างยุคสมัยนั้นจริงๆ เราอยากให้ผู้ชมได้ก้าวเข้าไปสู่ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้และถามตัวเองว่า ‘ถ้าฉันเป็นทหารโรมันที่ทะเยอทะยาน ฉันจะตามคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มนี้ไหมในเมื่อถ้าพูดกันโดยเหตุผลแล้ว มันไม่สมเหตุสมผลเลยซักนิด ฉันจะเปลี่ยนแปลงไปแบบนั้นได้จริงๆ หรือ’ น่ะครับ”

               ในการสร้างฉากสงครามให้สมจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไฟน์ได้ศึกษาการต่อสู้แบบนักรบกลาดิเอเตอร์กับนักแสดงสตันท์ระดับแนวหน้าชาวอิตาเลียนหลายคน “ผมสนใจที่จะเรียนรู้ว่ากองทัพโรมันมีรายละเอียดยังไง” นักแสดงหนุ่มกล่าว “สไตล์การต่อสู้ของพวกเขากระชับ ออกแบบอย่างดีและอันตราย พวกเขาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ โล่ต่อโล่ มันมีแง่มุมที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งเหมาะมากๆ กับความคิดที่เฉียบคมของคลาวิอุสครับ”

               ซีเควนซ์ไคลแมกซ์ที่ทะเลกาลิลีถูกถ่ายทำที่อัลเมเรีย ริมชายฝั่งประเทศสเปน ซึ่งมีหาดทรายสีขาวงดงามทอดตัวยาวหลายไมล์และน้ำทะเลสีเขียวมรกตที่ใสกระจ่าง “มันเยี่ยมมากที่ได้ถ่ายทำในสถานที่เดียวกับที่เดวิด ลีนและเซอร์จิโอ้ ลีโอนและผู้กำกับอีกหลายคนถ่ายทำหนังของพวกเขา” เรย์โนลด์สกล่าว “ภูมิประเทศที่นี้มีเสน่ห์และงดงามมากๆ องก์ที่สามคือตอนที่เราได้สัมผัสกับธรรมชาติจริงๆ ครับ”

“ฉากท้ายๆ นี้จะเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ ท้องฟ้าและน้ำทะเลมากๆ ครับ” ไฟน์กล่าว “เควินถ่ายทำมันออกมาได้อย่างงดงามและถ่ายทอดธรรมชาติออกมาได้อย่างตระการตา สำหรับผม ฉากพวกนี้ให้ความรู้สึกลึกซึ้งถึงจิตวิญญาณมากกว่าความมหัศจรรย์ครับ”

เรย์โนลด์สใช้อัลคาซาบา ซึ่งเป็นป้อมปราการศตวรรษที่ 11 ในเมืองมาลากา ประเทศสเปน เป็นส่วนหนึ่งของฐานที่มั่นของพิลาต ภายใต้การดูแลของผู้ออกแบบงานสร้างสเตฟาโน ออร์โทลานี ทีมงานได้ใช้ความอุตสาหะในการจำลองสถาปัตยกรรมสมัยนั้นขึ้นมาใหม่ “สเตฟาโนสร้างป้อมปราการโรมันขนาดใหญ่ในหนังขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยมครับ” เรย์โนลด์สกล่าว “ผมกล้าท้าทุกคนให้ดูมันแล้วคิดว่าไม่ใช่ของจริงครับ”

คำถามต่อศรัทธา

               ด้วยภาพน่าตื่นตาตื่นใจ ฉากแอ็กชันตื่นเต้น ตัวละครที่สมจริงและโครงเรื่องสืบสวนสอบสวน Risen ตั้งเป้าหมายไว้ที่ทั้งกลุ่มผู้ชมผู้มีศรัทธาและผู้ที่นับถือศาสนาอื่น “สำหรับผม Risen โดดเด่นกว่าเรื่องอื่นๆ เพราะมันเป็นการนำเสนอเรื่องราวจากพระคัมภีร์ที่ค่อนข้างในแบบที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ที่ยอมรับในเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ใจพวกนั้น” ไฟน์กล่าว “ผมชอบที่หนังเรื่องนี้นำเสนอความลึกลับของพระเยซูคริสต์ผ่านทางมุมมองที่ไม่เหมือนใครครับ”       

               แม้ว่าจะยึดมั่นกับคำสอนตามพระคริสตธรรมใหม่ Risen ก็ได้รวมเอาโทนร่วมสมัย ที่รองรับความคิดอ่านของผู้มีความเคลือบแคลงเข้าไว้ด้วยกัน “ผมอยากจะบอกเล่าเรื่องราวแบบนี้ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์จริงๆ มานานแล้วครับ” ผู้อำนวยการสร้างลิดเดลกล่าว “แน่นอนว่าเราอยากให้กลุ่มคนที่มีความศรัทธารู้สึกว่า เรื่องราวพวกนี้ได้รับการถ่ายทอดในแบบที่เหมาะสม แต่ถ้าคุณไม่เชื่อในเรื่องพวกนี้ ทั้งแอ็กชันและช่วงเวลาดรามาในเรื่องก็เป็นเหตุผลที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับ Risen ครับ”

               เรย์โนลด์จงใจออกแบบการนำเสนอฉากการฟื้นคืนพระชนม์ชีพของเขาเพื่อที่ผู้ชมจะได้มีข้อสรุปของตัวเองเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่องนี้ “เราไม่อยากจะบอกใครๆ ว่าพวกเขาควรจะเชื่ออะไร” ผู้กำกับกล่าว “คนสามารถใช้หนังเรื่องนี้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบจิตวิญญาณของตัวเอง หรืออาจเพียงแค่สนุกไปกับเรื่องราวจากจุดยืนความเป็นหนังเท่านั้นก็ได้ครับ”

ประวัตินักแสดง

               โจเซฟ ไฟน์ (คลาวิอุส) เป็นนักแสดงละครเวทีและภาพยนตร์ชื่อดัง ที่มีผลงานทั้งจอแก้วและจอเงิน

               หลังจากการแสดงที่ได้รับเสียงวิจารณ์ยกย่องของเขาในภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์เรื่อง Elizabeth และภาพยนตร์โดยจอห์น แมดเดินเรื่อง Shakespeare in Love เขาก็ได้รับบทนำในภาพยนตร์โดยฌอน-ฌาคส์ แอนน็อดเรื่อง Enemy at the Gates, ภาพยนตร์โดยอีริค ทิลเรื่อง Luther, ภาพยนตร์โดยรูเพิร์ท ไวแอทเรื่อง The Escapist, The Merchant of Venice ประกบอัล ปาชิโนและเจเรมี ไอออนส์และภาพยนตร์โดยไรอัน เมอร์ฟีย์เรื่อง ์ Running with Scissors

               นอกจากนี้ เขายังได้แสดงในตอนไพล็อตของซีรีส์โดยไรอัน เมอร์ฟีย์ทางเอฟเอ็กซ์เรื่อง “Pretty/Handsome” ในบทชายมีครอบครัว ที่รู้ตัวว่าเขาเป็นพวกทรานเซ็กส์ชวลและเลือกที่จะเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนเพศ ซีรีส์นี้ไม่เคยได้ออกอากาศแต่ได้รับการยกย่องอย่างสูงและถูกมองว่าเป็นซีรีส์ล้ำสมัย ผลงานจอแก้วเรื่องอื่นๆ ของเขารวมถึงการแสดงนำในซีรีส์เอบีซีเรื่อง Flash Forward และการแสดงนำในบท “เมอร์ลิน” ในซีรีส์สตาร์ซเรื่อง Camelot ประกบเอวา กรีน

               ล่าสุด ไฟน์ได้แสดงประกบดเวย์น จอห์นสันใน Hercules หลังจากนี้ เขาจะได้แสดงในภาพยนตร์โดยฮวน พาโบล บุสคารินีเรื่อง The Games Maker สำหรับดิสนีย์ ลาติน อเมริกา และ Strangerland ประกบนิโคล คิดแมน ภาพยนตร์เรื่องหลังนี้เปิดตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ปี 2015 ในสาขาประกวดภาพยนตร์ดรามาโลก เขากำลังจะเริ่มต้นถ่ายทำภาพยนตร์อินดีเรื่อง The Last Race ซึ่งเขาจะรับบทนักกีฬาชาวสก็อตต อีริค ลิดเดิล

               ทอม เฟลตัน (ลูเชียส) เริ่มต้นอาชีพนักแสดงของเขาตอนอายุได้ 10 ขวบ เมื่อเขารับบทพีกรีน คล็อกในภาพยนตร์แฟนตาซีโดยปีเตอร์ ฮูวิทท์เรื่อง The Borrowers พรสวรรค์ของเขาได้รับการมองเห็นโดยผู้กำกับแอนดี้ เทนเนนท์ ผู้เลือกเขาให้แสดงในภาพยนตร์อีพิคที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดเรื่อง Anna And The King ในบทหลุยส์ ลีโอโนเวนส์ ลูกชายของโจดี้ ฟอสเตอร์ในเรื่อง โดยที่ฟอสเตอร์รับบทแอนนา

               ทอมสร้างชื่อในฐานะหนึ่งในนักแสดงดาวรุ่งของวงการอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่รับบท ‘ดราโก้ มัลฟอย’ คู่ปรับของแฮร์รี พอตเตอร์ในภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter And The Sorcerer’s Stone ตอนอายุได้ 11 ขวบ เขาก็มีชื่อเสียงโด่งดังและได้แสดงในภาพยนตร์ Harry Potter ทั้งแปดเรื่อง ในเดือนพฤษภาคม ปี 2010 เขาได้รับรางวัลเอ็มทีวี มูฟวี อวอร์ดสาขา “ผู้ร้ายยอดเยี่ยม” สำหรับ Harry Potter And The Half-Blood Prince ซึ่งเป็นภาคที่หกของแฟรนไชส์ Harry Potter หลังจากนั้น ในปี 2011 เขาก็คว้ารางวัลได้อีกครั้งหนึ่งจาก Harry Potter And The Deathly Hallows: Part 1 นอกจากนี้ เขายังได้รับรางวัลทีนชอยส์ อวอร์ดสาขา “ผู้ร้ายยอดเยี่ยม” อีกด้วย

               ในปี 2013 ทอมได้แสดงภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมถึงภาพยนตร์โดยชาร์ลีย์ สแตรทตันเรื่อง Therese ทอมรับบทสามีของ ‘เธอเรส’ ที่รับบทโดยอลิซาเบธ โอลสันและลูกชายของ ‘มาดาม ราควิน’ ที่รับบทโดยเจสสิก้า เลนจ์ ปลายปีนั้น ทอมได้แสดงประกบแมทธิว กู๊ด, เพเนโลเป้ วิลตันและทอม วิลคินสันในดรามาพีเรียดที่หลายคนรอคอย Belle ซึ่งเขารับบทเจมส์ แอชฟอร์ด ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องเปิดตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์โตรอนโตปี 2013

               หลังจากนี้ ทอมจะได้แสดงใน Ghosts of the Pacific เรื่องราวเกี่ยวกับนักบิน ทหารปืนใหญ่และพลวิทยุในสงครามโลกครั้งที่สอง ผู้พบตัวเองอยู่บนเรือชูชีพโดยปราศจากน้ำหรืออาหารหลังจากถูกบีบให้ต้องสละเครื่องบินระหว่างภารกิจสอดแนม ทีมนักแสดงคนอื่นๆ ของเรื่องรวมถึงเจค อาเบลและการ์เร็ต ดิลลาฮันท์ Ghosts of the Pacific เข้าฉายในปี 2014

               นอกจากนี้ ในช่วงปลายปี เขายังได้รับบท ‘คาร์นาบี้’ ใน Grace and Danger และบท ‘ดร.จอห์น ซีวาร์ด’ ใน Fangs of War ภาพยนตร์ยุคศวรรษที่ 20 ที่นำนิยายคลาสสิกเรื่อง Dracula ของแบรม สโต๊กเกอร์มาสร้างใหม่ โดยทอมจะแสดงประกบคริสโตเฟอร์ วอลเคน

               นอกเหนือจากโปรเจ็กต์จอเงินแล้ว ทอมยังได้แสดงในซีรีส์เรื่อง Full Circle ทางไดเร็ค ทีวี ประกบมินก้า เคลลี, เดวิด โบเรียแนซและเคท วอลช์อีกด้วย Full Circle เปิดตัวทางช่องไดเร็คทีวีในวันที่ 9 ตุลาคม นอกจากนี้ เขายังได้แสดงในซีรีส์ใหม่ทางทีเอ็นทีเรื่อง Murder in the First ดรามาอาชญากรรมลุ้นระทึกที่จะล้วงลึกคดีฆาตกรรมคดีเดียวตลอดทั้งซีซัน ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นลงมือทำผิดไปจนถึงขั้นตอนสืบสวน การจับกุมตัวและการไต่สวน ทอมได้แสดงประกบเทย์ ดิ๊กส์และแคธลีน โรเบิร์ตสัน

               หลังจาก Harry Potter ผลงานอื่นๆ ของทอมรวมถึงการร่วมแสดงกับเจมส์ ฟรังโก้และแอนดี้ เซอร์คิสในภาพยนตร์โดยรูเพิร์ต ไวแอทท์เรื่อง Rise Of The Planet Of The Apes นอกจากนั้น เขายังได้แสดงในทริลเลอร์โดยจอห์นนี เควอร์เกียนเรื่อง The Disappeared ที่นำแสดงโดยเกร็ก ไวส์และแฮร์รี ทรีดอะเวย์ และยังได้รับบทคามีโอในคอเมดียอดนิยมเรื่อง Get Him To The Greek ที่นำแสดงโดยรัสเซล แบรนด์ ในเดือนสิงหาคม ปี 2012 ทอมได้แสดงประกบแอชลีย์ กรีนและเซบาสเตียน สแตนในภาพยนตร์สยองขวัญโดยท็อดด์ ลินคอล์นเรื่อง The Apparition ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของคู่รักที่ถูกหลอกหลอนโดยสิ่งเหนือธรรมชาติที่ถูกปลดปล่อยออกมาระหว่างการทดลองในวิทยาลัย

               ล่าสุด ทอมได้แสดงในภาพยนตร์โดยริดลีย์ สก็อตที่ดัดแปลงจากนิยายเบสต์เซลเลอร์โดยเคท มอสเรื่อง Labyrinth ที่เขารับบท ‘เรย์มอนด์-โรเจอร์ เดอ เทรนคาเวล ไวส์เคานท์แห่งคาร์คัสซอน’ ทีมนักแสดงของเรื่องยังรวมถึงจอห์น เฮิร์ทและเซบาสเตียน สแตนอีกด้วย

               ปีเตอร์ เฟิร์ธ (พอนทิอุส พิลาต) เจ้าของรางวัลบาฟตา อวอร์ดและผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ด อาจเป็นที่รู้จักดีที่สุดจากบท ‘เซอร์แฮร์รี เพียร์ซ’ ในซีรีส์ “Spooks” (2002-2011) ทางบีบีซีวัน ซึ่งเขาเป็นนักแสดงคนเดียวที่ได้แสดงในทุกเอพิโซดของซีรีส์นี้ตลอดสิบซีซัน

               ปีเตอร์เปิดตัวในโลกภาพยนตร์ตอนอายุได้ 18 ปีในภาพยนตร์โดยฟรังโก้ เซฟฟิเรลลีเรื่อง  Brother Son, Sister Moon (1972) ในปี 1973 เขาแจ้งเกิดได้สำเร็จด้วยการได้รับบทนำเป็นวัยรุ่นผู้ทุกข์ตรม อลัน สแตรงในละครโดยปีเตอร์ แชฟเฟอร์เรื่อง Equus ซึ่งถูกนำไปแสดงโดยเนชันแนล เธียเตอร์ที่โรงละครโอลด์ วิคในกรุงลอนดอน ในปี 1974 ละครเวทีเรื่องนี้ได้เปิดตัวบนเวทีบรอดเวย์ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ชื่นชมล้นหลาม โดยปีเตอร์แสดงประกบแอนโธนี ฮ็อปกินส์ในบทดร.มาร์ติน ไดซาร์ท วัยกลางคน ปีเตอร์กลับมาแสดงละครเวทีเรื่องนี้อีกครั้งที่พลายมัธ เธียเตอร์บนเวทีบรอดเวย์โดยมีริชาร์ด เบอร์ตันรับบทไดซาร์ท ก่อนที่เขาจะได้แสดงละครเวทีอีกหลายเรื่องโดยเนชันแนล เธียเตอร์ รวมถึง Romeo and Juliet (ในบทโรมิโอ) และ Spring Awakening

               หลังจากได้แสดงนำในภาพยนตร์หลายเรื่องเช่น Aces High (1976) และ Joseph Andrews (1977) เขาก็กลับมารับบทอลัน สแตรงอีกครั้งในเวอร์ชันภาพยนตร์ของละครเวทีเรื่อง Equus (1977) ที่กำกับโดยซิดนีย์ ลูเม็ตและร่วมแสดงโดยเบอร์ตัน หลังจากที่เขาได้รับรางวัลบาฟตา อวอร์ดและได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ด เขาก็ได้รับบทแองเจิล แคลร์ในภาพยนตร์โดยโรมัน โปแลนสกี้เรื่อง Tess (1979)

ในปี 1981 เขาได้รับบทวูลฟ์กัง อมาเดอุส โมสาร์ทแทนไซมอน แคลโลว์ในละครโดยปีเตอร์ แชฟเฟอร์เรื่อง Amadeus บนเวทีบรอดเวย์ ที่เขาแสดงประกบเซอร์เอียน แม็คเคลลัน เขาแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมในบทกะลาสีชาวรัสเซียในดรามาเกี่ยวกับความสิ้นศรัทธาในโลกสมัยใหม่เรื่อง Letter to Brezhnev (1985), The Hunt for Red October (1990), Shadowlands (1993) และบทผู้จัดการโรงละครผู้ชั่วร้ายใน An Awfully Big Adventure (1995) ประกบฮิวจ์ แกรนท์

               ในปี 1994 เขาได้กลับมาสู่จอแก้วอังกฤษอีกครั้งด้วยบทสำคัญในซีรีส์ยอดนิยมเรื่อง “Heartbeat” (1992) นอกจากนี้ เขายังได้แสดงในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง Amistad (1997) และ Pearl Harbor (2001) อีกด้วย

               เมื่อเร็วๆ นี้ เขาได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง Spooks: The Greater Good ที่เป็นสปินออฟจากซีรีส์ทางบีบีซีวันเรื่อง “Spooks” ปีเตอร์ได้กลับมารับบท ‘แฮร์รี เพียร์ซ’ ประกบคิท แฮร์ริงตันและเจนนิเฟอร์ เอห์ลอีกครั้งหนึ่ง ระหว่างการถูกส่งตัวมาให้กับหัวหน้าหน่วยป้องกันการก่อการร้ายของเอ็มไอไฟว์ แฮร์รี เพียร์ซ ผู้ก่อการร้ายอาเด็ม กาซิม (เอลส์ กาเบล) ได้หนีจากการถูกคุมตัวของเอ็มไอไฟว์ ในตอนที่แฮร์รีหายตัวไปหลังจากนั้น วิล ฮอลโลเวย์ (แฮร์ริงตัน) ลูกศิษย์ของเขาก็ได้รับมอบหมายให้ค้นหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในตอนที่ลอนดอนกำลังจะถูกโจมตี ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 8 พฤษภาคม

               คลิฟฟ์ เคอร์ติส (โยชัว) เป็นนักแสดงจอแก้วและจอเงินผู้ประสบความสำเร็จ เจ้าของผลงานหลากหลายที่ครอบคลุมถึงการแสดงที่ตราตรึงใจกว่าสองทศวรรษ

               ปัจจุบัน เขาแสดงประกบคิม ดิคเคนส์ในซีรีส์เอเอ็มซีเรื่อง “Fear the Walking Dead” ซีรีส์นี้ออกอากาศในวันที่ 23 สิงหาคม ปี 2015 และเป็นการเปิดตัวซีรีส์ที่มีผู้ชมสูงสุดในประวัติศาสตร์เคเบิล ทีวี ในซีรีส์เรื่องนี้ที่มีเรื่องราวเกิดในลอสแองเจลิส เขารับบท ทราวิส มานาวา ครูอังกฤษ ผู้พยายามประคับประคองครอบครัวให้อยู่รอดระหว่างหายนะซอมบี้

               ในเดือนธันวาคมนี้ เขาจะแสดงใน The Dark Horse เรื่องจริงที่สร้างแรงบันดาลใจโดยบรอด กรีน ที่เขาควบคุมงานสร้าง ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่กำกับโดยเจมส์ นาเปียร์ โรเบิร์ตสัน เคอร์ติสรับบทเจเนซิส พอนตินี อัจฉริยะหมากรุกชาวเมารี ผู้สอนเยาวชนด้อยโอกาส ระหว่างที่เขาทุกข์ทรมานจากอาการไบโพลาร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงานเทศกาลภาพยนตร์ซานฟรานซิสโกและเทศกาลภาพยนตร์ซีแอตเติล รวมถึงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสำหรับเคอร์ติสที่งานเทศกาลภาพยนตร์ซีแอตเติลด้วย

               คลิฟฟ์ เคอร์ติสเกิดในเมืองโรโทรัว ประเทศนิวซีแลนด์ มีเชื้อสายเมารี เขาเข้าศึกษาที่โรงเรียนการละครนิวซีแลนด์ ก่อนจะศึกษาต่อที่เทียโทร ดิมิทรี สคูลาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากกลับนิวซีแลนด์ บทแรกของเขาคือการแสดงในภาพยนตร์รางวัลอคาเดมี อวอร์ดเรื่อง The Piano บทบาทอื่นๆ ที่เขาแสดงในนิวซีแลนด์รวมถึงเมโลดรามาเกี่ยวกับแคมป์เรื่อง Desperate Remedies, ดรามาเออร์เบินดิบเถื่อน Once Were Warriors และคอเมดีเบาสมองเรื่อง Jubilee

ในฮอลลีวูด เคอร์ติสรับบทที่มีความหลากหลายและหลากสัญชาติ ตั้งแต่ชาวโคลอมเบียใน Blow ประกบจอห์นนี เด็ปป์, ชาวอาหรับใน Three Kings ประกบจอร์จ คลูนีย์และมาร์ค วอห์ลเบิร์กและชาวลาตินใน Training Day ประกบเดนเซล วอชิงตันและอีธาน ฮอว์ค ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ รวมถึง The Insider ประกบอัล ปาชิโนและรัสเซล โครว์, Runaway Jury ประกบจอห์น คูแซ็ค, ภาพยนตร์โดยมาร์ติน สกอร์เซซีเรื่อง Bringing Out the Dead และภาพยนตร์โดยเอ็ม.ไนท์ ชยามาลานเรื่อง  The Last Airbender นอกจากนี้ เขายังรับบทโพรูแรนจี้ พ่อของไพเกียในภาพยนตร์เรื่อง Whale Rider อีกด้วย ในปี 2007 เขาได้หันไปจับงานอำนวยการสร้างและผลงานของเขาส่วนหนึ่งได้แก่ภาพยนตร์เรื่องแรกของไทก้า ไวติติ คอเมดีเกี่ยวกับพวกกี๊คเรื่อง Eagle vs Shark ที่นำแสดงโดยเจอร์เมน เคลเมนท์และ Boy ภาพยนตร์อีกเร่องของไวติติ ที่กลายเป็นภาพยนตร์ท้องถิ่นที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์นิวซีแลนด์

               ด้านจอแก้ว เขาได้แสดงในซีรีส์ฟ็อกซ์เรื่อง Gang Related  ในบทฮาเวียร์ อาคอสต้าและและซีรีส์เอบีซีเรื่อง Missing ในบทเจ้าหน้าที่เอฟบีไอแด็กซ์ มิลเลอร์

ประวัติทีมงาน

               เควิน เรย์โนลด์ส (ผู้กำกับ บทภาพยนตร์โดย) ความรักของเควิน เรย์โนลด์ส ผู้ถูกเลี้ยงดูในกองทัพอากาศ ที่มีต่อภาพยนตร์เป็นแรงบันดาลใจให้เขาทิ้งปริญญากฎหมายและย้ายไปลอสแองเจลิสเพื่อศึกษาต่อที่โรงเรียนภาพยนตร์ที่โด่งดังของมหาวิทยาลัยเซาเธิร์น แคลิฟอร์เนีย ภาพยนตร์ธีซิสของเรย์โนลด์สเรื่อง Proof กลายเป็นรากฐานสำหรับ Fandangoที่นำแสดงโดยเควิน คอสท์เนอร์ และอำนวยการสร้างโดยแอมบลิน เอนเตอร์เทนเมนต์ของสตีเวน สปีลเบิร์กในฐานะหนึ่งในผลงานสร้างเรื่องแรกๆ ของพวกเขา ระหว่างที่ศึกษาที่ยูเอสซี เขายังได้เขียนบทภาพยนตร์คัลท์ยอดนิยมเกี่ยวกับสงครามเย็นเรื่อง Red Dawn ที่จอห์น มิลเลียส กำกับอีกด้วย

               นอกจากนี้ เขายังได้กำกับภาพยนตร์เรื่อง The Beast, Robin Hood: Prince of Thieves, Rapa Nui, Waterworld, The Count of Monte Cristo, Tristan + Isolde และOne Eight Seven รวมถึงเอพิโซด You Gotta Believe Me