บินตรงจากเกาหลีมาประเทศเป็นครั้งแรกสำหรับ 5 สาว Crayon Pop โดยงานนี้ทั้ง 5 สาวก็ได้นำเอาความน่ารักสดใสพกมาในงานแถลงข่าว The 7% Project Presents เด็กไทยซ้อนท้ายใส่หมวก ณ.ห้อง เอราวัณ 1 โรงแรมคอร์ทยาร์ด โดย แมริออทกรุงเทพฯ  ซึ่งในวันนี้แฟนๆจะได้พบกับ มินิคอนเสิร์ต “Crayon Pop Live in Bangkok”  บริเวณลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ เวลา 15.00 เป็นต้นไป

ในงานวันนี้ เริ่มต้นด้วยการกล่าวต้อนรับจาก คุณ ฌอน แพนตั้น (Director of Corporate Social Responsibility & Corporate Experiences, Marriott Thailand)  และ นางรัตนวดี เหมนิธิ วินเธอร์ (ผู้อํานวยการประเทศไทย มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย) ที่มาพูดถึงโครงการ The 7% Project Presents นี้ “เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เด็กจำนวนมากต้องเสียชีวิตจากสาเหตุที่สามารถป้องกันได้ การสวมหมวกกันน็อคที่ได้มาตรฐานสามารถลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตได้ 42% และลดโอกาสบาดเจ็บที่ศีรษะได้ถึง 69% เราหวังว่าโครงการ The 7% Project นี้จะช่วยสร้างความตระหนักให้ ครอบครัว ชุมชน โรงเรียน ผู้บังคับใช้กฎหมาย และผู้มีอำนาจ เห็นความสำคัญของการสวมหมวกกันน็อค และในที่สุดจะช่วยลดจำนวนเด็กที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้”

จากนั้น คุณ อลิสัน เซลโควิทซ์ (ผู้อํานวยการองค์การช่วยเหลือเด็กประจําประเทศไทย) และคุณ เควิน วัตคินส์ (Executive Director of the Overseas Development Institute และ Save the Children UK Board Member)  ได้พูดถึงเด็กไทยและอันตรายจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เนื่องจากการละเลยที่จะใส่หมวกกันน็อค เพราะอาจจะคิดว่าระยะทางใกล้ จากนั้น ครูนกเล็ก จีรภัทร์ สุกางโฮง จากโรงเรียนบางมด (ตันเปาว์วิทยาคาร) เจ้าของไวรัลคลิปคัฟเวอร์แดนซ์สอนหนังสือ ‘ครูยอนป๊อบ’ พูดถึงการปลูกฝังเรื่องความสำคัญของหมวกนิรภัยให้กับเด็กๆ ผ่านสื่อสร้างสรรค์

และสุดท้ายถึงคิวของ  5 สาว Crayon Pop ที่เพิ่งเคยมาเมืองไทยเป็นครั้งแรกเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ซึ่งทั้ง 5 สาวก็บอกว่าตื่นเต้นและดีใจมากที่มีโอกาสได้มาเจอแฟนคลับชาวไทย ก็ต้องขอบคุณแฟนๆที่ให้การสนับสนุนมาตลอด และก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทางมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเซียและองค์กรช่วยเหลือเด็กแห่งประเทศไทย ที่ได้ให้พวกเค้าได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการดีๆแบบนี้ ครั้งแรกที่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับโครงการนี้ ก็ตัดสินใจเลยว่าจะเข้าร่วม เพราะมันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่มีเด็กไทยเพียงแค่ 7% เองที่สวมหมวกกันน็อค Crayon Pop มีความตั้งใจที่จะทำให้เด็กๆหันมาสนใจและเห็นความสำคัญของการสวมหมวกกันน็อค พวกเราเองก็ใส่หมวกกันน็อคกันตลอดเวลา ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการร้อง เล่น เต้น หรือ ทำกิจกรรมต่างๆ เพราะฉะนั้นทุกคนสามารถใส่หมวกกันน็อคได้อย่างมั่นใจ

สำหรับการแสดง  “Crayon Pop Live in Bangkok” สาวๆขออุบไว้เป็นความลับก่อน แต่อยากให้ทุกคนได้มากัน รับรองว่าจะสนุกมากอย่างแน่นอน แล้วก็อย่าลืมใส่หมวกกันน็อคมาเต้นท่าจั้มปิ้งในเพลง Bar Bar Bar กับพวกเรานะคะ เพราะนอกจากนี้ยังมีการแจกรางวัลมากมายรวมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับการสวมหมวกกันน็อคด้วย และที่สำคัญเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกในประเทศไทยของพวกเราด้วยค่ะ ก่อนจะอ้อนแฟนไทยด้วยภาษาไทยน่ารักๆ “รักแฟนๆทุกคนค่ะ” “แล้วเจอกันนะคะ”  “เด็กไทยซ้อนท้ายใส่หมวก” “มากันให้ได้นะคะ” และ เจอกันที่หอศิลป์ค่ะ” น่ารักขนาดนี้ แฟนไทยห้ามพลาดเด็ดขาด

Q.  มาเมืองไทยรู้สึกยังไงบ้างคะ
A.  ตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้มเมืองไทยเป็นครั้งแรกเพราะเป็นประเทศที่อยากมาอยู่แล้ว แต่ที่ดีใจมากที่สุดคือได้เจอกับแฟนๆคนไทย เป็นโอกาสดีที่ได้มาแสดงคอนเสิร์ตให้แฟนๆไดชมกัน

Q. สถานที่ที่อยากไปในเมืองไทย
A. พัทยา

Q. อยากลองทานอาหารไทยอะไรบ้างคะ
A. ผัดไท ต้มยำกุ้ง แล้วก็อยากจะกินอย่างอื่นอีกเยอะแยะเลยค่ะ

Q. ทราบข่าวจากไหนคะว่ามีแฟนๆไทยคอยให้กำลังอยู่มากมายแบบนี้
A. พวกเราจะดูจากคลิปใน Youtube ก็จะมีข้อความจากแฟนๆชาวไทย และในวันนี้ก็มีแฟนคลับไปรับที่สนามอีกด้วย มีการถือป้ายรอและยังเรียกพวกเรา Pop Pop Crayon Pop พร้อมๆกันอีกด้วย ที่สำคัญมีคนใส่ชุดวอร์มและสวมหมวกกันน็อคมาด้วย ประทับใจมากเลยค่ะ

Q. จะมีโชว์อะไรมาฝากแฟนๆบ้างคะ
A. อยากจะเก็บไว้เซอร์ไพรส์แฟนๆค่ะ แต่ก็เป็นเพลงฮิตของพวกเราทั้งหมดแน่นอนค่ะ ตอนนี้ตื่นเต้นมากเลยค่ะ

Q. อากาศที่ไทยแตกต่างจากเกาหลีมา ปรับตัวกันยังไงคะ
A. ตอนนี้ที่เกาหลีหนาวมากค่ะ จริงๆอยากจะหนีอากาศหนาวมาเที่ยวที่อากาศสบายๆมานานแล้ว ครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสดีเลยค่ะ

Q. พูดภาษาไทยได้บ้างยังคะ
A. “สวัสดีค่ะ” ช่วยสอนพวกเราหน่อยได้ไหมคะ (รัก เครยอน ป็อป มากๆนะคะ)

Q. ตอนนี้มีผลงานอะไรบ้างคะ
A. ก็มีที่ผ่านมา Saturday Night – Dancing Queen – Bar Bar Bar – Lonely Christmas และ Uh-ee ค่ะ

Q. สุดท้ายนี้ให้พูดถึงการมาร่วมโครงการ The 7 % Project เด็กไทยซ้อนท้ายใส่หมวก
A.  รู้สึกเป็นเกีรติมากที่ได้เป้นตัวแทนมาร่วมในโครงการที่สำคัญนี้ เพราะตอที่ได้ทราบเรื่องเกี่ยวกับโครงการก็รู้สึกตกใจมาก ที่เด็กไทยใส่หมวกกันน็อคกันน้อยมาก และ มีอุบัติเหตุเกิดเยอะมาก ก็ภูมิใจมากๆที่จะได้มีส่วนร่วมในการรณรงค์ให้ลดอุบติเหตุลงได้