Director :

• Ø เรื่อง เกมปลุกผี มีเรื่องราวความน่าสนใจอย่างไร

อย่างแรกคือ เราอยากจะทำหนังผี ที่มีประเด็นเกี่ยวกับเหรียญที่อยู่ในปาก หรือถ้าเป็นสมัยก่อนเราจะเรียกกันว่า เงินปากผี ซึ่งเราไม่ได้โฟกัสไปที่เงิน เราพูดถึงการสะกดวิญญาณโดยการใช้เหรียญ ที่เป็นโลหะชนิดหนึ่ง ใส่เข้าไปในปากของศพ ความน่าสนใจหลักๆมันอยู่ที่ตรงนี้ แล้วค่อยขยายเป็นเรื่องราวว่า เป็นเรื่องของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ที่เป็นกลุ่มเกรียน ชอบลองดี ลองของ เพราะต้องการเป็นที่ยอมรับในโลกโซเชียล โดยใช้วิธีการถ่ายคลิปผี คลิปก่อกวน ที่มันสามารถสร้างกระแสได้ในโลกโซเชียล แล้วพวกเด็กกลุ่มนี้มันรู้สึกว่า คลิปที่มีอยู่ในปัจจุบันหรือที่เคยทำๆกันมา มันยังอ่อน ดูธรรมดาเกินไป พวกเด็กกลุ่มนี้จึงพยายามที่จะทำให้มันแรงขึ้น ดูลองของมากขึ้น สามารถที่จะท้าทาย ลบหลู่อะไรหลายๆอย่าง ที่มันเกินกว่าคนทั่วไปจะกล้าทำกัน คือมันเกรียนสุดๆ มันเกรียนโคตรๆ จนต้องเข้าไปอยู่ในสถานการณ์หนึ่ง ที่ต้องเผชิญกับความน่ากลัวแบบไม่คาดคิดมาก่อน  มันเป็นบทสรุปของกลุ่มเกรียนกลุ่มนึงที่ต้องเผชิญผลกรรมที่เคยทำไว้..

• Ø เรื่องนี้ต้องเตรียมข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ก่อนที่จะถ่ายทำบ้าง

ข้อมูลเรามีประมาณนึง จากบทภาพยนตร์ที่มีมาตั้งแต่แรก ข้อมูลที่เราได้เพิ่มเติมเข้ามา จะเป็นการใส่รายละเอียดของความสยองขวัญ เราเพิ่มไดเร็คชั่นความน่ากลัวที่แตกต่างจากรูปแบบหนังผีไทยๆที่เคยเห็นกัน เราพยายามดีไซน์รูปแบบหนังผีที่มันเป็นสากลมากขึ้น มีวิธีการกระตุกอารมณ์คนดู กระชากขวัญ สร้างความตื่นตะลึงด้วยการใช้เทคนิคการถ่ายทำที่ทันสมัยมากขึ้น..

• Ø ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ในรูปแบบใด

คือเรายังยืนยันว่าเป็นหนังผีวัยรุ่น ถึงเรื่องราวอาจจะมีในส่วนที่ดูเก่าแก่ที่เกี่ยวกับวัด หรือโบราณสถาน แต่จริงๆแล้ว เรานำเสนอในมุมมองใหม่ที่ทันสมัย ที่เป็นหนังผีปัจจุบัน และก็เพิ่มความเป็นดราม่าให้เข้มข้นมากขึ้น ไม่ใช่หนังผีที่เอาแค่ความกลัวมาเป็นพื้นฐาน แต่เราพูดถึงเรื่องความรู้สึกนึกคิดของคนด้วย เอามาผนวกกับหนังสยองขวัญ..

• Ø เรื่องนี้มีการนำเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆมาใช้กับภาพยนตร์เรื่องนี้บ้าง

เราจะมีการดีไซน์รูปแบบของซีนผี คือเราจะเรียกว่าเป็นผีดีไซน์ คือการออกแบบซีน สยองขวัญ เพื่อให้มันมีคาแรคเตอร์ของตัวเอง เพื่อให้แตกต่างจากงานชิ้นอื่น อย่างเช่นวิธีการเข้า-ออกของผี การปรากฏตัวของผี คือเราไม่สามรถพูดออกมาในเชิงให้เห็นเป็นภาพได้เลย แต่เราอยากให้รอดูว่า เรากำลังหาทิศทางใหม่ในการนำเสนอตรงจุดนี้ อย่างเช่น หนังอาจจะมี CG หรือ Special effect ซึ่งเรากลับพยายามจะไม่ให้เห็นในส่วนนั้น เพราะรู้สึกว่ามันเป็นงานที่ควบคุมได้ลำบาก สำหรับวิธีการถ่ายทำในแบบของเรา คือเราต้องการหนังผีที่มันดูสด ที่มันดูจริง มองเห็นความสยองขวัญได้โดยไม่ต้องพึ่งความเหมือนจริงของคอมพิวเตอร์กราฟฟิก เราหยิบหลายๆอย่างมารวมกันในความหลากหลาย ของวิธีการนำเสนอหนังผีที่มีอยู่บนโลกใบนี้ ให้มาผสมผสานและลงตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้..

• Ø คนดูจะได้อะไรกลับไปจากภาพยนตร์เรื่องนี้

ประเด็นแรกของการที่เราทำหนัง เพราะต้องการให้ความบันเทิง ต้องการให้คนหลุดออกในโลกของความเป็นจริงให้ได้ เพื่อเข้าไปสัมผัสโลกใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาในภาพยนตร์ แต่สิ่งที่ถูกแฝงเอาไว้มันเป็นเรื่องราวที่เราจะต้องเกิดจากการตีความขึ้นไปอีกว่า ในความเป็น ดราม่าของหนังตัวละครต้องการจะบอกอะไรกับคนดู ต้องการสะท้อนสังคมในรูปแบบไหน ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้ให้อะไรกับคนดู.. คนที่หาจะคำตอบพวกนี้ได้ คือคนที่พยายามจะตีความสิ่งที่เรานำเสนอ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเราไม่สามารถพูด หรือเขียนได้เป็นลายลักษณ์อักษร ถ้าจะหาคุณงามความดีของหนังเรื่องนั้น คุณก็ต้องพร้อมที่จะตีความ พร้อมที่จะเปิดมุมมองใหม่ๆ กับสิ่งที่เขากำลังจะบอกด้วย ไม่ใช่ให้ความบันเทิงอย่างเดียว..

• Ø เคยทำอะไรแบบเกรียนๆ เหมือนในภาพยนตร์บ้างไหม

ในสมัยนั้นมันยังไม่มีคำว่าเกรียน คือเมื่อก่อนจะเป็นเด็กอยู่ในกรอบ เด็กๆไม่ค่อยได้แหกกฎ โตมามันก็เลยอยากแหก!! เพราะเราตอนเด็กเรียนสายวิทย์ฯ ถ้าตัวเราเองไม่พยายามแหกกฎ เราก็คงไม่ต่างจากเด็กวิทย์ฯทั่วไป ไม่เป็นวิศวะ ก็เป็นหมอ หรือไม่งั้นก็คงต้องเรียนต่อในสายนั้นๆ เรายังเคยไปเรียนวิศวะเลยด้วยซ้ำ เราไปเรียนอยู่ปีนึง แล้วก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ต้องหาทางอื่นที่มันจะเป็นตัวเราเอง ถึงกล้าที่จะแหกกฎออกมา กล้าเกรียนกับครอบครัว คือเด็กรุ่นผมมันเป็นเด็กที่ถูกตีกรอบเอาไว้เยอะ ถูกเลี้ยงมาแบบวิถีชาวบ้าน วิถีสังคม โดยยกค่านิยมแบบเก่าๆ มันครอบงำเราจนเราไม่เป็นตัวของตัวเองมากนัก คือมันต้องโตแล้วอะถึงจะกล้าทำ เรื่องแบบนี้ในสมัยรุ่นก็ผม มันก็คงจะเกรียนแล้ว แต่ถ้าเป็นยุคในปัจจุบันมันดูธรรมดามากเลย เป็นแค่การโดดเรียน ไปเล่นสนุกเกอร์ ไปเล่นเกม ถ้าเทียบย้อนกลับไปรุ่นผม มันดูห่างไกลกันมาก มันไปไกลจนแบบ โอ้โห!! มันกล้าทำอย่างนี้ได้ยังไง อย่างในหนังเรามีกลุ่มเด็กเกรียนเข้าป่าช้าไปลองของ เป็นสมัยเราไม่มีใครกล้าหรอก รุ่นนี้มันทำอะไรได้ในแบบที่คิดไม่ถึง ทำให้ความเกรียนของไอ้พวกกลุ่มนี้เนี่ย มันต้องเจออะไรที่เหนือกว่าที่สิ่งพวกมันคิดเอาไว้อีกเยอะ มันคือสิ่งที่อยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้..     

เรื่องย่อ เกมปลุกผี :

ต้น (ธามไท แพลงศิลป์) กับแจ็ค (ปอร์เช่ ศิวกร อดุลสุทธิกุล) เป็น 2 นักเรียนสุดแสบที่โด่งดังมาจากการทำคลิปลบหลู่สิ่งต่างๆ และยิ่งพวกเขาได้รับการยอมรับมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งทำคลิปที่รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ความสนุกและความคะนองทำให้ทั้งคู่คิดที่จะจับตัวของต่อ (ฟลุท ชินพรรธน์ กิตติชัยวรางค์กูร) ซึ่งเป็นน้องชายแท้ ๆ ของต้นเข้าไปในป่าช้า เพราะต้องการล้างแค้นในสิ่งที่ต่อทำไว้กับบี(พิม หทัยชัช เอื้อกิตติโรจน์) หญิงสาวที่แจ็คแอบหลงรัก

ต่อโดนต้นและแจ็คจับตัวไป พวกเขาต้องการแกล้งต่อโดยการล็อคกุญแจมือต่อให้ติดกับศพในป่าช้า  แต่เมื่อขุดจนพบศพที่แห้งกรัง ต้นเห็นเหรียญประหลาดวาบวับที่อยู่ในปากของศพ ด้วยความโลภทำให้ต้นดึงเหรียญนั้นออกจากปากของศพ และทันใดนั้นศพที่แห้งกรังนั้นกลับเหมือนมีชีวิต ต้นผวาจนเกิดอาการขาพลิก ขณะที่ต่อกำลังจะหนี ต้นก็คว้ากุญแจมือของต่อมาล็อคกับข้อมือของตนเอง ทำให้ทั้งคู่ต้องหนีผีไปด้วยกัน

ทั้งหมดวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนกไร้ทิศทางจนพลัดหลงกับแจ๊ค เหลือเพียง ต้น ต่อ และบี ที่หนีจนพบกับ ผา เมฆ และบัว ความน่ากลัวที่แท้จริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้น!!

อยากเล่น ต้องแลก!!

24 ธันวาคม นี้ทุกโรงภาพยนตร์..

ตำนาน  เรื่องเล่าลี้ลับ  “เงินปากผี” 

เงินปากผี!! ถ้าย้อนกลับไปสมัยรุ่นพ่อ รุ่นแม่เรา เมื่อได้ยินนี้ก็คงต้องร้องอ๋อที่จะมาพร้อม กับเรื่องราวอาถรรพ์ที่จะชวนให้เราขนหัวลุก เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เวลาที่เราเอาเหรียญเก่าดำๆ ไปซื้อของทางร้านจะบอกไม่รับเพราะกลัวว่า จะเป็นเงินปากผี และยังมีข้อมูลจากหลายๆที่มันมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมถึงต้องเอาเหรียญใส่ไว้ในปากของผู้ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว คนไทยโบราณเชื่อว่าเมื่อญาติพี่น้องเสียชีวิตลงจะต้องมีการจัดพิธีกรรมต่าง ๆ ให้ถูกต้อง การใส่เงินในปากของผู้ตาย เป็นขั้นตอนก่อนนำศพลงโลงคือจะนำเงินพดด้วง หรือเงินเหรียญบาทหนึ่ง หรือจะเป็นเหรียญสลึงสองสลึง ห่อผ้าขาวแล้วผูกเชือกไว้หางยาว หย่อนลงในปากศพ ให้เชือกห้อยออกมานอกปากถ้าไม่ผูกเชือก จะทำให้เลื่อนลึกลงไปในลำคอ เพราะเวลานำไปเผาจะได้เอาออกมาเพื่อเก็บเป็น ที่ระลึกหรือเครื่องรางได้

ในปัจจุบันบางทีก็ใช้ของมีราคา เช่น ทองคำ บรรจุแทนก็ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า!!! เงินปากผี มีความเป็นมายาวนานหลายพันปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัย กรีก-โรมันโบราณ เรียกกันว่า เหรียญของแครอน (Charon’s obol)  หมายถึงเหรียญที่ใส่ในปากหรือวางไว้บนปากของผู้ตายก่อนที่จะทำการฝัง โดยมีความเชื่อว่า เหล่าวิญญาณของคนตายจะต้องเดินทางไปปรโลก เมื่อถึงเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างคนเป็นกับคนตายจะมีคนพายเรือชื่อว่า แครอน (Charon)  เป็นผู้นำพาดวงวิญญาณทั้งหลายข้ามจากโลกนี้ไปยังอีกโลกหนึ่ง โดยดวงวิญญาณจะต้องจ่ายเงิน 1 เหรียญอะละบัส (Olobus)  เพื่อเป็นค่าจ้างพายเรือ จึงเป็นต้นกำเนิดความเชื่อที่ว่า ต้องวางเหรียญใส่ปากของคนตาย เพื่อช่วยให้ผู้ตายมีค่าผ่านทางสำหรับเรือข้ามฟาก ซึ่งความเชื่อเรื่อง เงินปากผี นี้ได้แผ่ขยายไปทั่วทั้งยุโรป และตะวันออกใกล้มานับพันปี  ในปัจจุบันชาวยุโรปที่ยังสืบทอดประเพณีนี้กันมาก็จะเอาเหรียญทองแดง 1 เพนนีวางไว้ที่ตาของคนตาย เพื่อใช้เป็นค่าจ้าง แครอน พาวิญญาณผู้ตายข้ามแม่น้ำไป รวมถึงวัฒนธรรมอื่น ๆ ก็ยังมีความเชื่อเรื่อง เงินปากผี เช่น ชาวฮินดู ก็มีความเชื่อ ในเรื่องนี้ไม่น้อยเหมือนกัน โดยจะเอาเงินและข้าวสารเล็กน้อยใส่ปากศพ  พวกสิงโพที่เป็น ชาวป่าของพม่า เมื่อแต่งตัวศพเรียบร้อยแล้ว จะเอาเนื้อหมูและเหล้าและข้าวเซ่นสรวง และเอาเงินใส่ปากศพ ถ้าผู้ตายเป็นหัวหน้าจะเอาเอาหินแก้วอันมีค่าใส่ไว้ใต้รักแร้ ข้างละเม็ด แล้วจึงนำใส่โลง ชาวจีนจะเอาอีแป๊ะใส่ปากศพและเผากระดาษเงินกระดาษทองให้ด้วย ส่วนชาวเวียดนามในอดีตก็จะใส่เหรียญสามเหรียญไว้ในปากผู้ตาย

นอกจากนี้ “เงินปากผี” คือหนึ่งในวัตถุอาถรรพ์หลาย ๆ อย่าง ที่คนโบราณจนถึงปัจจุบัน มักเสาะแสวงหากัน แต่ผู้ที่จะเป็นเจ้าของได้นั้นต้องมีวิชาความรู้ทางด้านไสยศาสตร์เพื่อป้องกันตนเอง ที่กล่าวว่าเงิน ปากผี เป็นวัตถุที่อาถรรพ์นั้น เพราะวัตถุชนิดนี้มาจากปากของผีหรือศพนั่นเอง  การที่จะนำเอาเงินปาก

ผีมาทำพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างเป็นเครื่องรางของขลัง จะต้องมีการทำพิธีที่ถูกต้องถ้าทำโดยสุ่มสี่สุ่มห้าอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ ( เจ้าของเงินปากผี คือ วิญญาณของผู้ตายอาจจะมาทวงคืนได้ ) แต่ในสังคมเมืองหลวงที่มีความเจริญ สิ่งเหล่านี้ได้สูญสิ้นไปจากคนในสังคมเมืองหมดแล้ว ที่ยังเหลืออยู่ก็คงจะเป็นตำนานที่จะสามารถเล่าสู่กันฟังได้จากรุ่นสู่รุ่นกันต่อไป ซึ่งยังคงไว้ซึ่งความอาถรรพ์ เร้นลับ สำหรับคนที่ยังอยากพิสูจน์กันต่อไป….

เล่นไม่เลิก เพราะมันเลิกไม่ได้!