พวกเขาจะทำให้…หัวใจ…ของคุณ…ฟินเว่อร์ “ฟินสุโค่ย” 25 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

“สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” ร่วมกับ “บริษัท ฟิน โปรเจกต์”

ขอจับมือกันฟินครั้งสำคัญ

กับภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้ ร่วมทุนระหว่างไทย-ญี่ปุ่น

Basic RGB

สร้างสรรค์ความ “ฟินสุโค่ย” โดยผู้กำกับมือรางวัล

“กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์”

พร้อมการปรากฏตัวครั้งสำคัญบนแผ่นฟิล์มของร็อคสตาร์ระดับเอเชีย                                                                                             “มาโกโตะ โคชินากะ” ขวัญใจ J-Rock จากวง Aucifer

ร่วมด้วยนักแสดงไทยขวัญใจวัยรุ่นชาวไทยแห่งยุคที่ขนมาฟินกันอย่างคับคั่ง

“สายป่าน อภิญญา”, “เต๋า เศรษฐพงศ์”, “ติ๊นา ศุภนาฏ”, “กาย นวพล” ฯลฯ

เตรียมฟินเว่อออร์…ทุกหัวใจ 25 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ 

เรื่องย่อ 

เพราะความอยาก ‘ฟิน’ ไม่เข้าใครออกใคร เมื่อใดโอกาสมาถึง เป็นต้องขอ ‘ฟิน’ ดูสักที!…….  ใครจะไปคิดว่าติ่งตัวแม่อย่าง หนูนา (สายป่าน-อภิญญา) ที่มีความฝันลมๆ แล้งๆ ว่าจะได้ฟินกับหนุ่มเจ-ร็อกนามกระเดื่อง มาโกโตะ (มาโกโตะ โคชินากะ) นักร้องนำแห่งวง TRICK จะได้ฟินสุโค่ยสมใจอยาก แต่กว่าที่ฝันจะเป็นจริงก็ไม่เรื่องง่าย เมื่อ เสือโคร่ง (เต๋า-เศรษฐพงศ์) แฟนหนุ่มนักกีฬายูโดออกอาการหึงหวงหนูนาที่ติ่งจนลืมแฟน จนอยากจะจับมาโกโตะทุ่มให้ฟินสักที มีเพียงน้องชายสุดเนิร์ดอย่าง สิงห์น้อย (ภีม-ภาคิน) ที่คอยดูแลปลอบใจเสือโคร่งอยู่ไม่ห่าง ทางด้านหนูนาเองลึกๆ ก็รู้สึกผิดที่ตัวเองติ่งจนเกินขอบเขต แต่ทำยังไงได้เมื่อความฝันที่จะฟินกับมาโกโตะนั้นแรงกล้ากว่าสิ่งใด

เมื่อมาโกโตะและวง TRICK มาแถลงข่าวเปิดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย เพื่อมาตามหานางเอกมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ หนูนาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ฟินกับมาโกโตะ โดยมี หมูแฮม (ติ๊นา-ศุภนาฏ) และ ไก่โต้ง (กาย-นวพล) สองเพื่อนซี้คอยช่วยเหลือจนฝันของหนูนาเป็นจริงในที่สุด หารู้ไม่ว่าที่หมูแฮมทำไปก็เพราะแอบชอบหนูนา จึงพยายามทำทุกทางเพื่อให้เธอได้ฟินอย่างมีความสุข ตรงข้ามกับเสือโคร่งที่ไม่เข้าใจหนูนาเลยสักนิด  ยังไม่มีใครรู้ว่า หลังจากที่หนูนาได้ฟินกับมาโกโตะสมใจอยากแล้ว ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ เธอจะหมกมุ่นกับความฝันจนลืมความเป็นจริงไปหรือเปล่า หมูแฮมจะจัดการความรู้สึกตัวเองได้หรือไม่ เสือโคร่งจะเข้าใจหนูนาไหม และใครกันแน่คือตัวจริงที่ทำให้หนูนาได้ฟินสุโค่ย!

จุดเริ่มต้นของความ “ฟินสุโค่ย”

A_040163      ปี พ.ศ. 2556 กรรมการบริษัทฟิน โปรเจกต์ จำกัด นำโดย คุณภัคกมล วิทยารางกุล และ คุณปุณยนุช วรนิธิพงศ์ ซึ่งขณะนั้นเป็น Project  Manager ของบริษัท K-Project จากประเทศญี่ปุ่นได้เดินทางไปร่วมประชุมแนวคิดเรื่องการสร้างภาพยนตร์ร่วมกับ คุณโยชิโอะ โคชินากะ ประธานบริษัท K-Project ซึ่งเป็นต้นสังกัดของวงดนตรีชื่อดังอย่าง ลูซิเฟอร์ (/\UCIFER) และ ทริค (TRICK) จนมาลงตัวที่ภาพยนตร์แนววัยรุ่นซึ่งมีดนตรีเป็นสื่อกลาง ในภาษาสากลคือ “Fin Sugoi” (ฟินสุโค่ย)

หลังจากนั้นทีมผู้สร้างก็พยามเฟ้นหาผู้กำกับและมือเขียนบทที่จะต่อยอดความตั้งใจที่จะสร้างหนังเรื่องนี้ออกมาให้ถูกอกถูกใจวัยรุ่นและถ่ายทอดเรื่องราวของ ความรัก มิตรภาพ และเสียงดนตรีให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ก่อนที่คุณภัคกมล วิทยารางกุล และ คุณปุณยนุช วรนิธิพงศ์ สองกรรมการบริษัทฟิน โปรเจกต์ ได้เลือกผู้กำกับมากฝีมืออันดับต้นๆ ของเมืองไทย “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” มาเป็นผู้ปรุงแต่งและสร้างความฟินในหนังเรื่องนี้ ซึ่งสองผู้บริหารสาวพูดถึงเหตุผลที่เลือกผู้กำกับคนนี้ว่า

A_030184       “คุณกอล์ฟเป็นคนที่มีแนวคิดนอกกรอบ อีกทั้งยังมีจินตนาการที่กว้างไกลและมีความสุขุมในเรื่องของบทภาพยนตร์ เพราะแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังวัยรุ่นแต่ก็ต้องการความสมจริงของบทและความพิถีพิถันในการสร้าง อีกทั้งผลงานของคุณกอล์ฟก็เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ซึ่งเรามองไกลไปซึ่งการนำหนังไปฉายในประเทศอาเซียนทั้งหมด จึงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว”

      ทางด้านผู้กำกับ “กอล์ฟ ธัญญ์วาริน” ก็พูดถึงจุดเริ่มต้นกับผลงานชิ้นนี้ กับเหตุผลที่ตัดสินใจตบปากรับคำมากำกับความฟินครั้งสำคัญในครั้งนี้ว่า

           “จุดเริ่มต้นของ ‘ฟินสุโค่ย’ มาจากทางผู้สร้างก็คือจากฝั่งไทย ‘ฟิน โปรเจกต์’ ได้มีแนวคิดกับทาง ‘K-Project’ ของประเทศญี่ปุ่น ที่จะทำหนังร่วมกัน อยากจะทำหนังที่เกี่ยวกับแฟนคลับมาโกโตะ ซึ่งตัวมาโกโตะเขาอยู่ในสังกัดของ K-Project อยู่แล้ว พอทางผู้สร้างติดต่อเราให้มากำกับ ก็มีการพูดคุยกันถึงทิศทางและอารมณ์ของหนัง ก็รู้สึกว่าอยากทำ ในฐานะที่เราเป็นวัยรุ่นสมัยก่อน ที่โตมากับการฟังเพลงญี่ปุ่น หรือชื่นชอบการฟังเพลงญี่ปุ่น ซึ่งเรารู้สึกว่าเราเคยรู้สึกแบบนั้น ก็เลยอยากทำ พออยากทำก็เลยเริ่มหาข้อมูล จากทั้งคนที่เป็นแฟนคลับคนญี่ปุ่น ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำเรื่องฟินสุโค่ยขึ้นมา

B_060236       สำหรับ “กอล์ฟ ธัญญ์วาริน” ชื่อนี้คงไม่ต้องพูดถึงฝีมือที่มีอยู่รอบด้านในการทำหนัง และถ้าดูจากผลงานสร้างชื่อที่ผ่านมาอย่าง “it gets better ไม่ได้ขอให้มารัก” และ “เธอ เขา เรา ผี” เราจะสังเกตได้ว่าผู้กำกับคนนี้มีการตีความความรักออกมาหลายรูปแบบ และที่สำคัญคือมีการจับต้องได้ เรียกได้ว่าเข้าถึงความเป็นจริงของมนุษย์ จนทำให้โดนอกโดนใจใครหลายคนมาแล้ว และในครั้งนี้ก็เช่นกันที่ผู้กำกับกอล์ฟกำลังพาทุกคนไปสัมผัสความรัก มิตรภาพ และเสียงดนตรี ให้ฟินอกฟินใจกันถ้วนหน้าอีกครั้ง  พิสูจน์ได้จากกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม หลังจากที่ ฟินสุโค่ย โดนใจชาวญี่ปุ่นไปเต็มๆ หลังจากได้ฉายรอบ  World Premiere  ในเทศกาล Osaka Film Festival 2014 ณ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นที่กระแสแรงจนต้องเพิ่มรอบฉายเลยทีเดียว     

“แรงบันดาลใจในการทำหนังเรื่องนี้มาจากการที่เราชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น มีเรื่องนึงที่ชื่อว่า ‘จังหวะร็อก ดนตรีรัก’ ก็ถือเป็นแรงบันดาลใจส่วนหนึ่ง แล้วเราก็เอาประกอบกับการ์ตูนที่เป็นที่มาของวงมาโกโตะ เพราะว่าวงลูซิเฟอร์ก็มาจากญี่ปุ่น เราก็เอาตรงนั้นมาเป็นเหมือนกับคอนเซ็ปต์ของหนังที่มีผู้หญิงซึ่งคลั่งไคล้นักร้องเจ-ร็อก คือนอกจากที่จะมีตัวสายป่านแล้ว มันก็ยังมีตัวละครแวดล้อมที่มีผลกระทบ เพราะเราคิดว่าการที่คนๆ หนึ่ง เป็นแฟนคลับของนักร้องที่เราฝันจะใกล้ชิด แล้ววันหนึ่งได้เข้าไปอยู่ใกล้ชิดจริงๆ มันจะมีผลกระทบอะไรกับคนเหล่านี้  ทั้งความรักและมิตรภาพ เรารู้สึกว่าตรงนั้นมันเป็นเรื่องที่เราสนใจ”

A_080013       “ฟินสุโค่ย” เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าหนูนา(สายป่าน) ซึ่งมีแฟนอยู่แล้วก็คือเสือโคร่ง (เต๋า เศรษฐพงศ์) แต่ตัวหนูนาชอบแล้วก็เป็นแฟนคลับของมาโกโตะ พอมาโกโตะได้เข้ามาเปิดคอนเสิร์ต แล้วก็มาหานางเอกเอ็มวีที่เมืองไทย หนูนาก็พยามทำทุกอย่างให้บรรลุความฝัน  ที่จะได้ไปอยู่ใกล้ๆ กับมาโกโตะ แล้วฝันก็เป็นความจริง แต่พอได้ใกล้กันอย่างที่ฝันแล้ว ความสัมพันธ์กับแฟนตัวเองและกับเพื่อนในกลุ่มที่มีอยู่ ทั้งหมูแฮม (ติ๊นา) กับ ไก่โต้ง (กาย) ก็มีบางอย่างเกิดขึ้น ที่ผลมาจากความฟินของหนูนา มันก็อลวนวุ่นวายกันไปหมด แต่จะลงเอยยังไง ต้องไปหาคำตอบกันในหนัง

      หลายคนคงอยากรู้ว่าใน “ฟินสุโค่ย” ผู้กำกับกอล์ฟ ได้ใส่ประเด็นความรักแบบไหนลงไปในหนังเรื่องนี้ ซึ่งรับรองว่าในหนังเรื่องนี้ก็เป็นอีกครั้ง ที่ตัวผู้กำกับหยิบประเด็นใกล้ตัวซึ่งมีความ ‘เรียลิสติก’ ที่เกิดขึ้นได้กับความรักของวัยรุ่นหรือคนทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งผู้กำกับพูดถึงพูดถึงมุมมองความรักในหนังเรื่องนี้ว่า

“ฟินสุโค่ย เล่าถึงเรื่องราวความรักของคนที่แอบจิ้น แอบรัก ไม่ว่าจะเป็นคาแร็คเตอร์ของสายป่านที่แอบรัก แอบชอบ แอบจิ้นกับมาโกโตะ แล้วก็จะมีตัวละครรอบๆ อย่างน้องเต๋า น้องกาย น้องติ๊นา น้องกัสเบล น้องภีม น้องคิตตี้ ต่างก็มีความรู้สึกบางอย่างอยู่ในใจ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะเล่าในเรื่องนี้ก็คือการแอบรัก แล้วถ้าเรามีโอกาสที่จะฟินกับคนที่เราแอบรัก เราจะทำอะไรกับมัน เราก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ถ้าเรามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับคนที่เราแอบรัก แล้วที่สำคัญที่สุดที่เราอยากจะนำเสนอในหนังเรื่องนี้ก็คือ ความรู้สึกของคนที่ถูกแอบรัก ปกติแล้วหนังมันจะเล่ามุมของฝ่ายที่ไปแอบชอบเขา แต่บางทีเราก็ไม่ได้เล่ามุมของคนที่ถูกแอบชอบ มันเป็นความอึดอัดว่าเราจะเสียเพื่อนไปมั้ย เราจะให้ความหวังเค้าเกินไปมั้ย หรือเราจะเสียเพื่อนไปมั้ย มันเป็นมุมมองที่อยากจะเสนอเข้าไปในเรื่องนี้ด้วยค่ะ”

พวกเขาจะทำให้คุณฟินสุโค่ย

มาโกโตะ โคชินากะ รับบทเป็น มาโกโตะ

A_040465        มาโกโตะ นักร้องนำวง TRICK ของญี่ปุ่น เขาเป็นร็อกสตาร์ที่มีแฟนคลับทั่วเอเชียและยังเป็นขวัญใจของสาวไทยอย่างหนูนา และด้วยความหล่อเนี้ยบ มีเสน่ห์แบบซูเปอร์สตาร์ เขาจึงกลายเป็นชายในฝันที่ผู้หญิงทุกคนคลั่งไคล้

                “มาโกโตะ โคชินากะ” อดีตนักร้องวงเจ-ร็อกชื่อดัง “ลูซิเฟอร์” เป็นที่รู้จักกันดีไม่เพียงแต่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ในประเทศไทยของเรา มาโกโตะและวงลูซิเฟอร์ดังกระหึ่มถึงขนาดต้องบอกว่าแทบไม่มีเจ-ร็อกพันธุ์ไทยคนไหนที่ไม่รู้จักพวกเขา ถึงแม้ว่าตอนนี้มาโกโตะจะหันมาออกอัลบั้มเดี่ยว และเดบิวต์วงใหม่ที่ชื่อว่า TRICK แล้ว แต่กระแสความนิยมของแฟนๆ ที่มีต่อหนุ่มเจ-ร็อกคนนี้ไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด ซึ่งกับการตบปากรับคำมาเล่นหนัง “ฟินสุโค่ย” ในครั้งนี้ของเขา ถือเป็นความเซอร์ไพรส์ที่เรียกเสียงกรี๊ดของแฟนคลับชาวไทยอย่างมาก ซึ่งผู้กำกับกอล์ฟ ธัญญ์วารินพูดถึงการแสดงของมาโกโตะในหนังเรื่องนี้ว่า

“คือเราก็รู้จักเขามานานแล้วตั้งแต่ตอนดังมากๆ ในเมืองไทย ซึ่งก็มีกลุ่มคนไทยเยอะอยู่พอสมควรที่รู้จักเขา พอได้มีโอกาสมาทำงานกับเขา เราก็ตื่นเต้นนะ แล้วมาโกโตะก็อยากเล่นหนังไทย พอดูบท ดูอะไรปั๊บ เขาก็สนใจ เพราะไม่ต้องเล่นเป็นคนอื่น เขาเล่นเป็นตัวเขาเอง ถึงแม้ว่าในหนังจะเขียนให้เขาเป็นอีกแบบหนึ่ง ไม่ได้เป็นเรื่องของมาโกโตะตัวจริง แต่ว่าเขาได้ร้องเพลง ได้โชว์ความสามารถ  ทั้งการแสดงแล้วก็การร้องเพลงด้วย เขาก็เลยสนใจและอยากร่วมงานกับเรา ในเรื่องเขาก็จะเป็นศิลปิน เป็นซูเปอร์สตาร์ ก็เหมือนปกติทั่วไปคือคือมีกรอบ มีกำแพง ที่กั้นจากคนอื่นอยู่ประมาณหนึ่ง แต่ด้วยหน้าที่การงานแล้วก็ความจำเป็น เขาก็มีกรอบบางอย่าง บางครั้งเขาก็ทำตามใจตัวเอง บางครั้งก็ทำตามกรอบที่มี ก็ถือว่าเขาเป็นคนที่คาดเดาความรู้สึกไม่ได้”

ทางด้านของหนุ่มมาโกโตะ ก็พูดถึงความรู้สึกและการทำงานกับทีมงานชาวไทยเป็นครั้งแรกในหนังเรื่องนี้ว่า

“ทุกคนน่ารักมาก จริงๆ ก่อนหน้านี้ผมอยากแสดงภาพยนตร์ไทย ทำงานร่วมกับคนไทยมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาส ซึ่งผมได้พูดกับสตาฟฟ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วพอดีสตาฟฟ์ได้รับการติดต่อจากทางบริษัทฟิน โปรเจกต์เลยมีโอกาสได้มาเล่นเรื่องนี้ครับ ในเรื่องนี้ผมก็รับบทเป็นนักร้องเหมือนกับตัวจริงที่ผมเป็นครับ ก็ขอขอบคุณผู้กำกับที่ให้ผมได้แสดงในบทบาทที่เป็นตัวเองด้วยการจุ๊บแก้มไปแล้วครับ สำหรับการแสดงถึงแม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องของกำแพงภาษา เนื่องจากคนละเชื้อชาติกัน แต่ผมก็มาที่เมืองไทยหลายครั้งมากแล้ว ถึงแม้จะพูดไทยไม่ได้ แต่ในด้านความรู้สึก ผมก็จะพยายามแสดงออกมาให้ดีที่สุด ทำงานออกมาจากใจ ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด ฝากเนื้อฝากตัวกับทุกท่านด้วยครับ”

อภิญญา สกุลเจริญกุล รับบทเป็น หนูนา

 

A_070087       หญิงสาวที่ชื่นชอบดนตรีเจ-ร็อกเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะศิลปินสุดฮ็อต มาโกโตะ และเมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้เธอได้ใกล้ชิดกับมาโกโตะ แล้วสาวติ่งอย่างเธอจะเลือกใครระหว่างชายในฝันกับแฟนหนุ่มที่คบกันมานานอย่างเสือโคร่ง

สายป่าน อภิญญา” นักแสดงสาวที่ผ่านผลงานคุณภาพมาแล้วอย่างมากมาย กับหลากหลายคาแร็คเตอร์และบทบาทที่ได้รับ ซึ่งคอหนังทุกคนคงยืนยันได้ว่าเธอคนนี้มักแสดงพลังทางการแสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยมมาโดยตลอด จนถือเป็นนักแสดงคุณภาพอีกคนหนึ่งของวงการ พิสูจน์ได้จากรางวัลสุพรรณหงส์ สาขานักแสดงหญิงนำยอดเยี่ยม (จากเรื่อง “ปาดังเบซาร์” ปี 56) ที่เธอคว้ามาเป็นเครื่องยืนยันฝีมือทางการแสดงได้เป็นอย่างดี และใน “ฟินสุโค่ย” สายป่านก็พร้อมพลิกคาแร็คเตอร์ชนิดที่ฉีกจากทุกบทบาทที่เคยได้รับมา กับบทบาทสาวติ่งเจ-ร็อกที่กำลังฟินกับความฝันจนลืมแฟนในชีวิตจริง ซึ่งผู้กำกับกอล์ฟพูดถึงบทบาทการแสดงของสายป่านในเรื่องนี้ว่า

“คาแร็คเตอร์ของหนูนาก็ค่อนข้างเป็นคนที่เปิดเผยความรู้สึกนะ เขาชอบอะไร เขารู้สึกอะไร เขาก็จะบอก เพราะฉะนั้นว่าถึงเขาจะมีแฟนอยู่แล้ว แต่เขาชอบมาโกโตะมานาน จนรู้สึกว่าเขาชอบมานานกว่าแฟนหรือเปล่า แล้วเขาก็รู้สึกว่ามาโกโตะเป็นทุกอย่างของชีวิตเขา เพราะฉะนั้นหนูนาก็จะมีมาโกโตะเป็นไอดอล ก็คือเป็นคนที่ชอบถึงแม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้  คาแร็คเตอร์ของหนูนาก็จะโผงผางเอาแต่ใจตัวเอง แต่ถ้าถามว่าหนูนาเป็นคนแรงมั้ย ก็แรงนะ แต่ว่าก็เป็นผู้หญิงที่ทำทุกอย่างเพื่อคนที่รักได้ คือปกติเท่าที่เราได้เห็นการแสดงของสายป่าน เราก็จะเห็นว่ามาทางดราม่าซะเยอะ แต่ว่าถ้ามาเล่นแบบสาวติ่ง แบบนี้เรายังไม่เคยเห็นสายป่านเล่น ตัวละครหนูนามีความหลากหลายทางอารมณ์ ต้องเล่นทั้งคอเมดี้ ทั้งดราม่า มีน่ารักๆ แรงๆ ผสมกัน เรารู้สึกว่าตรงนี้มันเป็นความสามารถที่ท้าทายของสายป่าน  สายป่านก็มักจะบอกว่าการที่ได้มากองนี้รู้สึกตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา เขารู้สึกตื่นเต้นและท้าทายความสามารถที่จะทำให้ดีมากขึ้น พอสุดท้ายเราได้เห็นการแสดงของเขาเราก็รู้สึกแฮปปี้ว่านี่ไม่ใช่สายป่าน ที่เรารู้จัก แต่เป็นหนูนาจริงๆ เราก็รู้สึกแฮปปี้กับการแสดงของสายป่านจริงๆ”

ทางด้านสาวสายป่านก็พูดถึงบทบาทกับลุคใหม่ที่รับรองว่าคนดูจะเอาใจช่วยและอินไปกับความรักและความฝันของตัวละครตัวนี้ว่า

         “ถือเป็นความท้าทายของป่าน ที่ได้มาร่วมงานกับพี่กอล์ฟ เพราะเราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากคาแร็คเตอร์ของตัวละครหนูนา วัฒนธรรมของแฟนคลับซึ่งไม่ได้แค่ตามกรี๊ดกร๊าดศิลปินไปวันๆ เหมือนที่คนภายนอกมอง แต่การชื่นชอบใครสักคนจนหมดหัวใจ มันทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการแสวงหาสิ่งที่ตัวเองต้องการอย่างเช่น กับการทำงานในกองนี้ก็สนุกมาก คาดเดาไม่ได้ว่าแต่ละฉากของเรื่องพี่กอล์ฟจะทำออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งก็ท้าทายทุกครั้ง บางวันได้แต่งคอสเพลย์ บางวันได้ใส่กิโมโน รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้มาทำงาน”  

เศรษฐพงศ์ เพียงพอ รับบทเป็น เสือโคร่ง

B_140193       แฟนหนุ่มของหนูนาผู้ไม่เคยเข้าใจอาการติ่งของแฟน เขามักถูกหนูนาไปเปรียบเทียบกับชายในฝันอย่างมาโกโตะ จนรู้สึกอึดอัดและน้อยใจเป็นที่สุด แต่จะให้เขาปล่อยให้แฟนสาวไปคบกับนักร้องในฝันง่ายๆ ก็เสียชื่อชายไทยเกินไปแล้ว เขาไม่มีวันยอมซะหรอก

“เศรษฐพงศ์ เพียงพอ” นักแสดงหนุ่มวัยรุ่นที่แจ้งเกิดมาจากเวที อะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น 8 ที่เขาสามารถชนะใจบรรดาแฟนคลับ ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวและฝีมือที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม จนสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 4 มาครองได้สำเร็จ ก่อนที่หนุ่มเต๋าจะเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว ทั้งผลงานโฆษณา ถ่ายแบบ เล่นละครร้องเพลง ก่อนจะมีผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีชื่อว่า “ยอดมนุษย์เงินเดือน” ทั้งยังชิมลางเป็นพระเอกเต็มตัวทางช่อง 3 ใน “สลับร่างสร้างรัก”และล่าสุดหนุ่มเต๋าก็พร้อมพาทุกคนไปพบบทบาทใหม่ที่สุดท้าทายของเขาอีกครั้ง กับบท เสือโคร่ง แฟนหนุ่มที่ไม่เคยเข้าใจอาการคลั่งไคล้นักร้องญี่ปุ่นของแฟนสาว ซึ่งผู้กำกับกอล์ฟ พูดถึงบทบาทและการแสดงของหนุ่มเต๋าในเรื่องนี้ว่า

“เสือโคร่งก็เป็นผู้ชายธรรมดา แต่ในความธรรมดาถ้าถามว่าเป็นคนที่นิสัยดีมั้ย ก็บอกเลยว่าไม่ดี เพราะเขาเป็นคนที่ขี้โมโห ไม่ใส่ใจในรายละเอียด เพราะฉะนั้นมันก็จะเป็นคาแร็คเตอร์ที่ผู้หญิงหรือคนที่มีแฟนแบบนี้ไม่น่าจะชอบหรือเปล่า แต่นิสัยส่วนตัวของเขาก็เป็นคนรักเดียวใจเดียว สำหรับเต๋าเราคิดว่าเราเคยเห็นการแสดงของเต๋า จากหนังบ้างละครบ้าง เราก็คิดว่าเต๋าน่าจะเหมาะกับบทๆ นี้ เพราะว่าหน้าของเต๋ามีความดื้อรั้นอยู่ในตัว เราก็คิดว่าเต๋าน่าจะเป็นเสือโคร่งได้ แล้วเต๋าก็ทำให้ทุกคนเชื่อได้ว่าทำไมถึงเป็นคนนิสัยแบบนี้ เรียกว่าเขาทำการบ้านแล้วก็เตรียมตัวมาเล่นเป็นเสือโคร่งได้ดีจริงๆ”

ทางด้านของหนุ่ม เต๋า เศรษฐพงศ์ ก็พูดถึงการแสดงและบทบาทใหม่ของเขาในครั้งนี้ว่า

    “ผมว่าผู้ชายที่มีแฟนเป็นติ่งศิลปิน ต้องมีความอดทนสูง แต่ตัวผมเองก็เป็นศิลปินที่มีแฟนคลับสนับสนุนจึงค่อนข้างเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาเป็นอย่างดี ผมว่าการได้มาเล่นเป็นเสือโคร่งที่มีแฟนเป็นติ่งศิลปินญี่ปุ่นถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนุกนะ เพราะในเรื่องนี้ตัวเสือโคร่งไม่มีอะไรไปเทียบกับศิลปินระดับเทพอย่างมาโกโตะอยู่แล้ว การเอาชนะใจแฟนตัวเองต้องอาศัยความจริงใจและความเข้าใจในสิ่งที่เธอเป็น ก็ถือเป็นบทที่เราต้องถ่ายทอดออกมาให้คนดูเข้าใจตัวละครตัวนี้ที่สุด ซึ่งก็ได้พี่กอล์ฟให้คำแนะนำและสอนในเรื่องของการสื่อสารอารมณ์ต่างๆ ให้ แล้วนักแสดงที่เล่นด้วยกันทั้ง สายป่าน ติ๊นา กาย แต่ละคนก็ทำออกได้ดีจนเวลาที่เราเข้าฉากด้วย ก็เลยแสดงอารมณ์ได้ดีมากขึ้นไปอีก ยังไงก็ไปติดตามกันเยอะๆ นะครับ”

ศุภนาฏ จิตตลีลา รับบทเป็น หมูแฮม

A_010519         สาวหล่อเพื่อนซี้อีกคนของหนูนา ซึ่งเข้าอกเข้าใจหนูนาเป็นอย่างดี และเป็นที่ปรึกษาและกำลังใจที่สำคัญของหนูนาเสมอมา แล้วผิดเหรอที่หมูแฮมจะเผลอใจให้กับหนูนา แล้วความรู้สึกนี้จะถูกเก็บเป็นความลับได้นานสักแค่ไหน

ติ๊นา ศุภนาฏ” สาวหล่อขวัญใจสาวๆ แห่งยุคพ.ศ.นี้ หลังจากแจ้งเกิดจากหนังรักวัยรุ่น “Yes or No อยากจะรักก็รักเลย” ทั้งสองภาค ชื่อของเธอก็ก้าวไปสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์อีกคนหนึ่งของเมืองไทย ที่มีแฟนคลับคอยให้กำลังใจและติดตามผลงานมากที่สุดอีกหนึ่งคน ซึ่งไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่ติ๊นายังมีแฟนคลับอยู่ในต่างแดนอีกมากมายไม่แพ้กันอีกด้วย โดยเฉพาะทางฝั่งแดนมังกร ซึ่งเธอได้รับการโหวตจากประชาชนประเทศจีนให้เป็นดาราหญิงที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเมืองไทย ซึ่งกับบทบาท “หมูแฮม” เพื่อนคนสนิทของตัวละคร “หนูนา” นั้นเจ้าตัวถึงกับออกปากว่าไม่ง่ายเลย แต่เธอก็พร้อมทุ่มสุดตัวให้กับบทบาทการแสดงใหม่นี้ ซึ่งทางผู้กำกับกอล์ฟ พูดถึงบทบาทและการแสดงของติ๊นาในเรื่องนี้ว่า  

 “ก็แน่นอนว่าหมูแฮมเป็นทอม แล้วก็เป็นเพื่อนสนิทกับหนูนา หมูแฮมก็เป็นนักดนตรีกลางผับ มีสาวๆ มากรี๊ดกร๊าดมากมาย นิสัยเขาก็จะเป็นคนที่เก็บความรู้สึก ไม่ได้เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองมากสักเท่าไหร่ ก็จะดูแลเอาใจใส่เป็นเพื่อนที่ดีของหนูนา ซึ่งบางครั้งการเป็นเพื่อนสนิทด้วยกันมากๆ มันก็อาจจะมีหวั่นไหวบ้าง แต่ว่าก็ต้องเก็บความรู้สึกกันไว้ จากที่เราเห็นติ๊นา เล่นใน Yes or No ก็จะเล่นเป็นคู่ทอมดี้ เป็นเลสเบี้ยน คือเรื่องนี้พี่ก็พยายามปรับคาแร็คเตอร์ของหมูแฮม ซึ่งมันเซอร์ไพรส์มากในเรื่อง ตัวคาแร็คเตอร์ของหมูแฮมมันต้องมีความซับซ้อนกว่าทุกเรื่องที่ติ๊นาเคยเล่นมา ทั้งเล่นดนตรี ร้องเพลง ถือว่าเรื่องนี้เราจะได้เห็นอะไรในตัวติ๊นามากขึ้นจากเดิม”

ทางด้านของสาวติ๊นา ก็ออกปากเลยว่าหนักใจสุดๆ กับการแสดงในหนัง “ฟินสุโค่ย” ที่นอกจากจะต้องแสดงให้เข้าถึงอารมณ์ของคนแอบรักแล้ว เธอยังต้องแสดงฉากร้องเพลง รวมไปถึงเลิฟซีน ที่รับรองว่าคนดูต้องเซอร์ไพรส์กันไปตามๆ กันว่า

“เรื่องนี้ถือว่าติ๊นาต้องเจอการบ้านที่ยากและต้องทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย แต่ก็ต้องยกให้พี่กอล์ฟที่ช่วยดึงความสามรถของเราออกมาอีก เขาจะคอยบอกติ๊ตลอดว่าฉากนี้อารมณ์ต้องเป็นแบบไหนต้องเล่นยังไง อย่างฉากเลิฟซีนพี่กอล์ฟก็จะมีวิธีละลายพฤติกรรมที่จะทำให้เราเปิดใจและสามารถเล่นบทเลิฟซีนได้ไม่เขิน ส่วนการแสดงเราก็ต้องเล่นแบบเก็บความรู้สึกลึกๆ ไว้ข้างใน คือมันต้องออกทางสีหน้า ท่าทาง ก็ได้พี่กอล์ฟ ได้นักแสดงคนอื่นๆ ช่วยกันบิลท์ได้ดีมากค่ะ อีกสิ่งหนึ่งที่ท้าทายก็คือการร้องเพลงและเล่นกีตาร์ ก็ต้องมีการไปเรียน แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ”

นวพล ลำพูน รับบทเป็น ไก่โต้ง

B_060343         หนุ่มมาดขรึม ซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มของหนูนาและหมูแฮมที่คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ หัวใจของไก่โต้งเริ่มสับสนเมื่อเขาเกิดความรู้สึกบางอย่างที่มันไม่ควรเกิดขึ้น แล้วเขาจะจัดการกับความรู้สึกนี้ได้อย่างไร

“กาย-นวพล ลำพูน” นักแสดงหนุ่มมาดเซอร์ทายาทของนักแสดงชื่อดังของเมืองไทย “หนุ่ย อำพล – มาช่า วัฒนพานิช” ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อยู่ในตัว ด้วยสไตล์เฉพาะตัวและแนวทางที่ชัดเจน หนุ่มกายก็มักตีบทแตกและทำให้คนเชื่อว่าเขาเป็นตัวละครตัวนั้นได้จริงๆ ไม่ยาก และกับบทบาทล่าสุด “ไก่โต้ง” ที่ผู้กำกับกอล์ฟพูดได้เต็มปากว่ามีความใกล้เคียงและคล้ายคลึงกับตัวหนุ่มกายมาก และเราจะได้เห็นความสามรถที่ก้าวไปอีกของหนุ่มมาดเซอร์คนนี้อย่างแน่นอน

       “ไก่โต้งก็เป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ จะเป็นเพื่อนกับหมูแฮมแล้วก็หนูนา ดูเป็นผู้ชายแมนๆ ติสท์ๆ ไม่ค่อยเปิดเผยความรู้สึก ซึ่งก็จะมีความลับกับตัวเองเยอะ ซึ่งเขาก็มีความรู้สึกบางอย่างที่บอกใครออกไปไม่ได้ สำหรับตัวละครไก่โต้งกับกายถือว่าคล้ายกันมาก ใกล้เคียงเลย กายอ่านบทแล้วกายชอบมาก มันมีอะไรที่คล้ายตัวเขา ก็ดีใจที่กายตกลงมาเล่นแล้วคือเวลากล้องจับถ่ายกายเรารู้สึกว่าเวลาถ่ายมุมหนึ่งก็เหมือนพี่หนุ่ย (อำพล) มุมหนึ่งเหมือนพี่ช่า (มาช่า) เลย ก็เลือกมุมยากพอสมควร (หัวเราะ) ส่วนเรื่องการแสดงเขาก็จะมีบทลึกๆ ที่ไม่ต้องพูด แต่แสดงอารมณ์ได้ดีมากๆ รับรองสาวๆ เห็นหลงรักแน่นอน”

ทางด้านหนุ่มกาย ก็พูดถึง “ไก่โต้ง” ตัวละครที่ได้รับว่า เขาชอบบทและคาแร็คเตอร์ของตัวละครตัวนี้ที่มีความใกล้เคียงและเป็นตัวเขาสูงมาก ซึ่งกายพูดถึงบทบาทและการแสดงในเรื่องนี้ว่า

“คาแร็คเตอร์แบบไก่โต้ง เขามีความเป็นปัจเจกชนสูง ค่อนข้างมีความเป็นตัวของตัวเองการที่เขาจะรู้สึกชอบอะไร มันก็เป็นสิ่งที่เขาเก็บไว้ในใจ ไม่มีใครรู้ ก็ถือว่าเป็นคาแร็คเตอร์ที่มีความซับซ้อนอยู่พอสมควร แต่พี่กอล์ฟก็มักจะบอกเสมอว่าตัวละครตัวนี้จะใช้สีหน้าและอารมณ์ถ่ายทอดบทบาทและการแสดงออกมาเป็นหลัก ส่วนเรื่องมันส์ๆ เวลาอยู่กับเพื่อนมันก็เป็นธรรมชาติของตัวผมอยู่แล้ว ก็ได้ฝึกได้เรียนรู้อะไรเยอะครับในหนังเรื่องนี้ แล้วก็สนุกมากด้วยได้ทำอะไรหลายอย่าง ได้ขับมอเตอร์ไซค์เท่ๆ ได้ใส่ชุดซามูไรและได้เล่นบทดราม่าหนักๆ ส่วนภาพในหนังที่มีหลายคนทักว่าเหมือนคุณพ่อหนุ่ย อำพลมาก ผมบอกได้เลยว่า ผมแซ่บกว่าเยอะครับ” (หัวเราะ)  

เบื้องหลังความฟินเว่อร์ ณ ดินแดนปลาดิบ   

A_090845                    ถือเป็นอีกหนึ่งความพิเศษในหนัง “ฟินสุโค่ย” ที่นอกจากเราจะได้ฟินไปกับเรื่องราวความรักและมิตรภาพในหนังแล้ว เรายังได้เห็นและซึมซับบรรยากาศแบบฟินๆ กับสถานที่สวยๆ ของดินแดนปลาดิบที่ทีมงานยกพลกันไปถ่ายทำกันอย่างเต็มอิ่ม แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบากและการปรับตัวของทั้งทีมงานและนักแสดง ที่ต้องเจอทั้งแผ่นดินไหว หิมะตก และอากาศที่หนาวเย็น แต่ทั้งหมดก็ทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้ฉากฟินๆ ที่แสนจะโรแมนติก ซึ่งผู้กำกับกอล์ฟพูดถึงการยกพลกันไปถ่ายทำที่ญี่ปุ่นว่า

“ที่ญี่ปุ่นเราเดินทางกันไปถ่ายอยู่หลายที่ แล้วก็หลายฉากเลย ไปกันอยู่เป็นอาทิตย์ ก็มีที่เอโดะวันเดอร์แลนด์ ไปถ่ายฉากที่หนูนากับเพื่อนไปเที่ยวกัน ก็ใส่ชุดกิโมโนดวลดาบซามูไรกัน จำได้ว่าตอนที่ไปถ่ายอากาศหนาวมาก ไม่ถึงสิบองศา แล้วคือนักแสดงไปถึงวันแรกเราก็ถ่ายฉากนี้เลย ก็ยังมึนงงกันอยู่ แต่ฉากนี้ถ่ายออกมาแล้วดูสนุกสนานกันดี อีกที่ที่เราไปก็คือ สะพานชินเคียว เป็นสถานที่มรดกโลก ด้วยความที่เป็นสะพานสีแดง เวลาถ่ายย้อนแสงไปมันเป็นอะไรที่สวยงามมาก เราก็ใช้ที่นี่ถ่ายฉากสำคัญเป็นจุดไคลแม็กซ์ของเรื่อง ข้อสรุปของเรื่องราวทั้งหมดจะเกิดขึ้นบนสะพานแห่งนี้ แล้วก็มีที่น้ำพุร้อนออนเซ็น ก็เป็นฉากที่โหดมากสำหรับสายป่าน เพราะต้องแช่อยู่ในน้ำตังแต่เช้ายันเที่ยง ตัวละครคนอื่นก็จะมีบทที่จะสลับกันขึ้นน้ำไป แต่ของสายป่านต้องแช่น้ำอยู่ตลอด ส่วนที่พ้นน้ำมาจะหนาว อยู่ใต้น้ำก็จะร้อน คือเสี่ยงต่อการไข้กินมาก คือสายป่านถ่ายฉากนี้เสร็จตัวแดงเลย ก็สงสารน้องอยู่นะ”  

ฟินกันแบบอลังการงานสร้าง กับ ฉากคอนเสิร์ต J-ROCK

A_040370     ในหนัง “ฟินสุโค่ย” บรรดาแฟนคลับของหนุ่มมาโกโตะและวง TRICK คงได้ฟินกันแบบสุดๆ เพราะผู้กำกับกอล์ฟและทีมงานได้เนรมิตฉากคอนเสิร์ตสุดอลังการให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยการทุ่มทุนสร้างมหาศาลเพื่อฉากๆ นี้โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าฉากนี้คนดูคงได้ทั้งความฟินความมันส์กันถ้วนหน้าประหนึ่งอยู่ในฉากคอนเสิร์ตกันจริงๆ ซึ่งเบื้องหลังทีมงานก็เซต แสง สี เสียง แบบเต็มรูปแบบ พร้อมกับนักแสดงและแฟนคลับร่วม 500 ชีวิตที่มาเข้าฉากกัน ณ มูนสตาร์ สตูดิโอ งานนี้หนุ่มมาโกโตะและเพื่อนก็โชว์ฝีมือระดับเทพทั้งเล่นทั้งร้องสดทุกฉากทุกเพลงแบบไม่มีกั๊ก จนผู้กำกับกอล์ฟต้องยกนิ้วให้

“ก็ถือว่าเป็นฉากที่เราเซตใหญ่มาก แล้วก็ทุ่มทุนเยอะมาก เพราะว่ามันเป็นฉากคอนเสิร์ตที่ใหญ่ เครื่องมันต้องครบ แสง สี เสียง อุปกรณ์เครื่องดนตรี มาโกโตะกับวงก็ต้องเล่นจริง เอ็กซ์ตร้าก็ต้องอัดเข้าไปเยอะมากเพื่อแสดงเป็นแฟนเพลง มันก็เป็นฉากใหญ่ แล้วก็เป็นฉากไคลแม็กซ์ของเรื่องด้วย ก็ถือว่าเป็นฉากที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตเราเลยนะ ฉากนี้กินเวลาถ่ายทั้งวันประมาณ 12 ชั่วโมง คือร้องจริงๆ 2 เพลง แต่ถ่ายกัน 12 ชั่วโมง แล้วต้องถ่ายให้เสร็จเพื่อถ่ายฉากอื่นต่อ ก็ถ่ายกันด้วยความกดดัน แต่พี่โชคดีมาก ที่นักแสดงเรื่องนี้มืออาชีพกันทั้งนั้น การถ่ายก็เลยใช้แค่ไม่กี่เทค คือไม่ว่าจะถ่ายกี่มุมเขาก็เล่นดีเหมือนเดิม ถือเป็นความโชคดีของเราที่ทำให้เราผ่านฉากยากๆ นี้ไปได้”

Basic RGBDIRECTOR’S NOTE

งานนี้เป็นงานยากและเป็นบทพิสูจน์ฝีมือของตัวเองอีกระดับหนึ่ง เพราะแม้ว่าจะเคยคว้ารางวัลระดับนานาชาติมาแล้ว แต่การทำหนังตลาดเพื่อเอาชนะใจวัยรุ่นต้องใช้จิตวิทยาอย่างสูง เพราะด้วยความสัมพันธ์ของตัวละคร ในบทค่อนข้างซับซ้อน มีส่วนผสมของความสุข ความสนุก ตลกขบขันและดราม่าในตัว จึงต้องทำให้ถึงอารมณ์ในทุกฉาก อีกทั้งยังได้นักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์อย่างมาโกโตะมาร่วมงานกับดาราชื่อดังของไทย “ฟินสุโค่ย” จึงกลายเป็นหนังที่ทุกคนจับตามองและคาดหวังว่าต้องแตกต่างจากหนังวัยรุ่นทั่วไป งานสร้างจึงต้องใช้ความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกทีมงานไปจนถึงบท  ภาพยนตร์และการกำกับศิลป์ก็ต้องความประณีต ซึ่งต้องใช้โลเกชั่นถ่ายทำทั้งในไทยและในญี่ปุ่น

เราว่าหนังรักเรื่องนี้ มันก็เป็นความบันเทิง มีความสุข แล้วก็ได้เห็นเรื่องราวความรัก ที่เราสามารถไปตั้งคำถามกับตัวเราได้ว่าการที่เรามีความฝัน มีไอดอล เป็นแฟนคลับใครสักคน แล้วถ้าวันหนึ่งเราฟินกับความฝันนั้นแล้ว ชีวิตจริงเราจะเป็นยังไง เพราะบางครั้งคนเราก็ไปยึดติดกับความฝันมาก จนบางครั้งลืมมองความเป็นจริงไป ตรงนั้นเราว่าเป็นเมสเสจสำคัญที่คนดูจะไปตั้งคำถามกับชีวิตว่า “เราหมกมุ่นกับความฝันจนลืมความเป็นจริงไปหรือเปล่า

ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
ผู้กำกับภาพยนตร์ “ฟินสุโค่ย”