“จีจ้า ญาณิน” เซอร์ไพรส์แฝดหญิง สวมกระโปรงพริ้วแอ็คชั่น จัดเต็มบู๊ทุกคิวหมัด เท้า เข่า ศอกทะลุจอ “ต้มยำกุ้ง 2-3D”

ยกกำลัง 2ความมันส์ แถมงานนี้ทุกคิวบู๊พร้อมทะลุทะลวง ในแบบเรียลแอ็คชั่น ที่เป็นเอกลักษณ์เสี่ยงตายในสไตล์ “พันนา ฤทธิไกร” ที่รับหน้าที่ควบคุมทุกฉากแอ็คชั่น ภายใต้การกำกับแบบเหนือจินตนาการของ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” เพื่อรองรับระบบ 3 มิติเต็มรูปแบบ เพื่อให้การกลับมาครั้งนี้ของ  “ต้มยำกุ้ง 2-3D” คือที่สุดแห่งปรากฎการณ์ของภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยระดับโลก ให้สมกับที่คนทั้งโลกรอคอยมา8ปี และที่เซอร์ไพรส์สุดๆ คือการปรากฎตัวของซูเปอร์สตาร์แอ็คชั่นหญิงอย่างจีจ้า ญาณิน ที่มานุ่งกระโปรงพริ้วโชว์ลีลาแอ็คชั่น พร้อมคู่หูในบทฝาแฝดนักสู้แล้ว ยังต้องเล่นจริงเจ็บจริงแบบทุ่มสุดตัวปะทะกับจา พนม

“เราจะไม่ได้เน้นมวยไทยอย่างเดียวแล้ว ในการต่อสู้ของเรื่องนี้จะเน้นความเป็นสากลมากขึ้น จะเป็นการต่อสู้ได้ในหลายๆ รูปแบบ  ในเรื่องจ้าก็จะมีน้องฝาแฝดอีกคนหนึ่ง(วานวาน )น้องเขาเป็นสตั้นท์หญิงมาก่อน ก็ถนัดเทควันโด แล้วก็เก่งพวกตีลังกา ที่อาจจะดูแปลกตาคือเรื่องนี้มีใส่กระโปรงเล่น แต่ถึงใส่กระโปรงก็ยังต้องเล่นแอ็คชั่นอยู่ เพียงแต่เราจะมีเทคนิคให้เล่นแอ็คชั่นได้สวยงาม ไม่ว่าจะเตะหรือกระโดดจากตึก 2 เรื่องนี้ก็ค่อนข้างบู๊เยอะ เวลาต่อสู้เข้าคิวแอ็คชั่นก็อาจมีการปะทะโดนกระแทก โดนชก โดนต่อย โดนศอก  คือถึงจะแอ็คชั่นแต่ก็ต้องสวย เพราะเราเป็นผู้หญิง ผู้หญิงอย่าหยุดสวย และที่สำคัญจ้าเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนดูหลายคนรอคอยมีคนรีเควสมานานแล้วว่าเมื่อไรจีจ้ากับจา จะได้มาเจอกันสักที เรื่องนี้ได้มาเจอกันแน่นอนค่ะ ได้มาเจอกันไม่เท่าไร ผู้กำกับแต่ละคน พี่ปรัชญา พี่พันนา พี่ท็อปนี้ บอกว่าเจอกันธรรมดาไม่ได้เอามาสู้กันดีกว่า ก็คือเรื่องนี้มาสู้กันแบบเต็มๆ อยู่หลายฉากเหมือนกัน แต่จะสู้กันอยางไร ก็อยากให้ติดตามชมกันบอกไป เดี๋ยวจะไม่มันส์ (หัวเราะ)”

มาทั้งทีก็ต้องให้จัดเต็ม คู่ปรับของแอ็คชั่นหญิงหน้าหวานอย่างจีจ้า ยังต้องไปร่วมบู๊กันชนิดถวายชีวิตโดยมีคู่ต่อสู้ร่างใหญ่ยักษ์ยักกะหมีอย่าง มาริส ไฟท์เตอร์สุดโหดจากฮอลลีวู้ดที่ว่ากันว่าเชี่ยวชาญทุกศิลปะการต่อสู้ที่มีในโลกเลยทีเดียว

 “แอ็คชั่นของเรื่องนี้ก็คือจะมีความหลากหลายกันไปในตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีตั้งแต่ 2 คน 3 คน แอ็คชั่นกลุ่ม  ซึ่งเรื่องนี้จะมีความแปลกแตกต่างตรงที่ดีไซน์ที่ไม่เหมือนเดิม คือแอ็คชั่นฝาแฝด จ้ากับคู่หูวานวานต้องเล่นด้วยกันเพราะฉะนั้นหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการวิ่ง การกระโดด แต่ละจังหวะต้องสัมพันธ์กัน กว่าจะถ่ายทำเราก็ต้องมีการเก็บตัวฝึกซ้อมคลุกคลีกันอยู่หลายเดือน แต่ที่ยากขึ้นคือ แอ็คชั่นที่เราต้องเข้ากับนักแสดงต่างชาติอย่างมาริส เหมือนเราต้องเล่นแอ็คชั่นกับหมีตัวโตใหญ่ๆ ซึ่งความไวของเราต้องเพิ่มขึ้นเพราะเขาเร็ว เรื่องแรงนี้ไม่ต้องห่วงเราเจ็บแน่นอนอย่างไงก็ต้องยอมเจ็บ พอเราเข้าฉากด้วยกันนานๆ เข้า ก็จะรู้จังหวะกัน แต่จะมีปํญหาคือภาษาค่ะ เวลาคุยกันค่อนข้างเมื่อยมือมาก เราจะมีล่าม แต่ภาษาแอ็คชั่นมันไม่ต้องมีอะไรมากมาย พอเราชี้จังหวะอะไรกันคือเราจะเข้าใจ แล้วก็แรกๆ เราจะไม่ซ้อมกันแรงมาก เขาเรียกว่าเดินดูไลน์  ดูจังหวะกัน พอเริ่มชิน จังหวะเริ่มดีปุ๊บเราเริ่มใส่แรง โดยการเพิ่ม 40% , 60%, 100% อย่างนี้ แล้วก็ตัวแอ็คชั่นของเรื่องนี้ค่อนข้างยาก แต่เพราะด้วยความที่จ้าเป็นคนตัวเล็ก  จะเสียเปรียบ ทำอะไรแล้วก็จะดูไม่แรง เพราะฉะนั้นทุกดอกที่เข้าไปต้องใส่เต็ม ใส่เต็ม ตีศอกก็ต้องเข้าไปตีเต็ม ๆ เลย เขากลับบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย บางทีแอบท้อ หลังๆ เลย พี่ปรัช, พี่ท็อปบอกใส่เต็ม เอาเต็มๆ เลยนะจะได้ให้จบไป กว่าจะผ่านเลือดตาแทบกระเด็น ไหนจะโดนเหวี่ยงลงพื้นเสร็จปุ๊บ ถูกรับแล้วโดนโยนอีกอะไรอย่างนี้ แต่ก็มันส์ดีค่ะ”

ทุ่มสุดตัวเพื่อแฟนๆ ขนาดนี้ เตรียมตัวสัมผัสความมันส์สุดขีดที่รับประกันว่าไม่เพียงหมัดเท้าเข่าศอกจาก จา พนมเท่านั้น เพราะงานนี้แอ็คชั่นหญิงจีจ้าญาณินการันตีมาแล้วว่าจัดเต็มเข้มทุกคิวแอ็คชั่นที่สำคัญระดมมากันชนิดทะลุจอในแบบ3มิติเต็มรูปแบบ 23 ต.ค. นี้ร่วมสร้างปรากฎการณ์  “ต้มยำกุ้ง 2-3D” ทุกโรงภาพยนตร์