“โอห์ม ฐิติวัฒน์ – ภูมิ ภูริพันธ์” ร่วมส่งเสียงสะท้อน เรียกร้องสิทธิความหลากหลายและเท่าเทียม ผ่านแคมเปญ RS Diversity

หลัง อาร์เอส กรุ๊ป ประกาศนโยบายการบริหารความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการยอมรับความแตกต่างของผู้คน พร้อมเพิ่มเติมสวัสดิการใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องความหลากหลายทางเพศ เพื่อให้โอกาสกับพนักงานทุกกลุ่มมีความเสมอภาคกัน อาทิ มีสิทธิการลาเพื่อจัดพิธีมงคลสมรส จดทะเบียนสมรส รวมทั้งมีเงินสนับสนุนช่วยเหลือสำหรับการแต่งงานอย่างเท่าเทียม และสามารถลาเพื่อผ่าตัดแปลงเพศได้ 45 วัน ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นผ่านแคมเปญ RS Diversity” ชื่นชมทุกความหลากหลาย เป็นไปได้ทุกความแตกต่าง ในเดือน Pride Month นี้ โดย 2 หนุ่มดาราดาวรุ่งจากช่อง 8 อย่าง โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ และ ภูมิ-ภูริพันธ์ ทรัพย์แสงสวัสดิ์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการยอมรับความแตกต่างตามหลักสิทธิมนุษยชน ในฐานะที่มีโอกาสถ่ายทอดบทบาทคู่รักหลากหลายเพศผ่านการแสดงละครว่า

โอห์ม “โอห์มว่าทุกวันนี้โลกเราเปลี่ยนไปเยอะมาก สังคมยอมรับความหลากหลาย และเปิดใจให้กับความรักในทุกรูปแบบ สำหรับโอห์ม คิดว่าความรักก็คือความรัก ความรักเป็นสิ่งสวยงาม เราสามารถจะรักใครก็ได้ที่เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุข โดยไม่ได้สนใจว่าคนๆ นั้นจะเพศอะไร และสังคมส่วนใหญ่ก็มองว่าเป็นเรื่องปกติครับ”

ภูมิ “ส่วนตัวภูมิเพิ่งจะมีโอกาสรับงานแสดงที่ถ่ายทอดบทบาทชายรักชายไปในซีรีส์ เสน่หาสตอรี่ ซึ่งจากที่ได้รับบทนี้ก็ทำให้ได้เห็นว่า จริงๆ สังคมยอมรับความหลากหลายทางเพศ ยอมรับรสนิยมทางเพศที่แตกต่างกันได้ค่อนข้างมาก คนส่วนใหญ่เข้าใจและไม่มองว่าเป็นความผิดปกติหรือแปลกประหลาด คนที่เพิ่งได้รับรู้ก็พร้อมเปิดใจและยอมรับความหลากหลายของความรักหลากรูปแบบได้ แต่ที่ภูมิรับแสดงแล้วพบว่าน่ากลัวก็คือ การไม่ยอมรับตัวเองมากกว่า บางคนกลัว บางคนอาย บางคนไม่กล้าเปิดใจกับรสนิยมของตัวเอง ภูมิว่า ตรงนี้น่ากลัวกว่าครับ”

เมื่อถามถึงแนวคิดเกี่ยวกับการสมรสเท่าเทียมในกลุ่ม LGBTQ+ ทั้งคู่ก็เห็นด้วยเช่นกัน

โอห์ม “เรื่องนี้ก็ได้ยินว่ามีการเคลื่อนไหวและพยายามผลักดันให้เป็นความจริงมานานแล้ว โอห์มว่าก็เป็นเรื่องที่ดีนะครับ ในเมื่อโลกยอมรับความหลากหลาย และมองว่าความหลากหลายหมายถึงความเท่าเทียม การสมรสเท่าเทียมก็ควรเป็นจริงและเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ในสังคมไทยซะทีครับ”

ภูมิ “ถ้าความหลากหลายหมายถึงความเท่าเทียม ภูมิว่าอะไรก็ตามที่ผู้หญิงผู้ชายทำได้ คู่รักหลากหลายทางเพศก็สมควรได้สิทธินั้นเหมือนกัน ที่สำคัญกฎหมายนี้จะช่วยให้ชีวิตคู่สมบูรณ์ การทำธุรกรรมสัญญา หรือ สิทธิประโยชน์ใดๆ ในชีวิตก็จะสมบูรณ์และไม่มีปัญหาตามมาภายหลังครับ”

นอกจากนี้ หนุ่มโอห์ม และภูมิ ยังเสนอแนะให้องค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชนให้สิทธิสวัสดิการกับพนักงานที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างเท่าเทียมกันอีกด้วย

โอห์ม “ถ้าพนักงานชายสามารถลาบวชพระได้ พนักงานหญิงสามารถลาคลอดได้ โอห์มว่า พนักงานที่มีความหลากหลายก็ควรจะมีโอกาสได้รับสิทธิในการลางานเพื่อกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญกับชีวิตของพวกเขาเช่นเดียวกัน ก็พิจารณากันเป็นกรณีๆ ไปครับผม ตามความเหมาะสมกับแต่ละองค์กร”

ภูมิ “สำหรับข้อนี้ก็คิดว่า สวัสดิการอะไรที่ชายหญิงได้รับ พนักงานที่มีความหลากหลายทางเพศก็ควรได้เหมือนกัน เช่น การลาแต่งงาน แม้จะชาย-ชาย หญิง-หญิง แต่งงานกันก็ควรจะลาได้เหมือนกัน หรือถ้าบริษัทไหนมีสวัสดิการสำหรับคู่สมรส ภูมิว่าคู่สมรสเพศเดียวกันก็ควรได้รับเหมือนกันครับ”

แม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเพื่อการรณรงค์ความเท่าเทียมทางเพศ ในเดือนแห่ง Pride Month แต่เราเชื่อว่า ความแตกต่างจะนำเราไปสู่สังคมแห่งความหลากหลาย ซึ่งความแตกต่างนั้นต้องได้รับการยอมรับ ความเข้าใจทั้งจากตัวเองและคนรอบข้าง โดยไม่เลือกปฏิบัติเพื่อให้ทุกคนมีโอกาสอย่างเท่าเทียม