เปิดเวที “The Star Idol” ชมพร้อมกันทั่วประเทศ 22 ส.ค.นี้ “ย้ง-หนุ่ม-ลีเดีย-นนท์” เริ่มภารกิจค้นหาที่สุดแห่ง Idol

The Star Idol  พร้อมแล้วกับภารกิจค้นหาที่สุดแห่งไอดอล สู่การเป็นดาวดวงใหม่   หลังเปิดรับสมัครคนมีฝัน   อายุ 14 – 27 ปี จากทั่วประเทศ มาร่วมตามความฝัน   จนได้ผู้แข่งขันที่มีความมุ่งมั่น  และความสามารถที่จะมาโชว์ศักยภาพความเป็น Idolต่อหน้า  4กรรมการ  ย้ง-ทรงยศ  สุขมากอนันต์, หนุ่ม-ณพสิน  แสงสุวรรณ (หนุ่ม กะลา) ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์  ดีน   และ นนท์-ธนนท์  จำเริญ  ที่พร้อมจะมาร่วมค้นหา The Star Idol คนแรกของเมืองไทย

The Star Idol_1ประเดิมตอนแรกในวันอาทิตย์ที่ 22 ส.ค.นี้  ด้วยรอบออดิชั่น   ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันได้มาโชว์ทักษะความสามารถหลากหลายรูปแบบ   ทั้งการร้อง การเต้น  เล่นดนตรี หรือโชว์ความสามารถที่ถนัด  เพื่อให้กรรมการเห็นเสน่ห์ความครบเครื่อง   ก่อนจะตัดสินให้คุณ ด้ไปต่อ จากเวทีนี้    ซึ่ง Idol ในแบบที่กรรมการทั้ง 4 กำลังมองหา  จะต้องเป็นอย่างไร?  ไปฟังจากปากทั้ง 4 ท่านกัน    

ย้งนำทีมกล่าวว่า นอกเหนือจากการดูเพอร์ฟอร์ม เสน่ห์ และความสามารถแล้ว  ผมยังอยากเห็นทัศนคติที่มีต่ออาชีพศิลปินที่เค้าจะก้าวเข้ามาทำในอนาคต  ศิลปินหลายท่านที่ประสบความสำเร็จล้วนผ่านความยากลำบากกันมาทั้งนั้น  อยากรู้ว่าเค้าพร้อมจะมาเจอสิ่งเหล่านั้นมั้ย   เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของก้าวแรกในการเป็นศิลปิน   เราอยากเห็นเค้าประสบความสำเร็จเป็นศิลปินตัวจริงได้ในอนาคต  

หนุ่ม เสริมว่า Idol  ในความหมายของผมคือ คือการทรงเครื่อง ครบรส  อาจไม่ต้องร้องเพลงเพราะ  ร้องพอได้  แต่แววตามุ่งมั่น ลุกเป็นไฟ มีเป้าหมายที่พร้อมจะพัฒนา  พร้อมจะส่งต่อแรงบันดาลใจไปถึงคนที่อยากทำตามความฝันต่อไป  ผมรู้สึกดีใจที่อีกไม่นานนนี้เราจะมีดาวดวงใหม่ที่เจิดจรัส เจ๋งๆ ขึ้นอีกหลายดวง 

ทางด้าน ลีเดีย บอกว่า  นอกจากร้องเพลงได้  สำหรับเดีย Idol ต้องมีเสน่ห์  มีความเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์    มีทุกอย่างครบเครื่องลงตัว  ต้องยอมรับว่าเด็กสมัยนี้เก่งมาก   ความสามารถล้นเหลือ  ทั้งร้อง เต้น เล่นดนตรี แต่งเพลงเองได้หมด  นี่แค่เห็นความสามารถของแต่ละคนในรอบออดิชั่นเท่านั้น  ถ้าไปต่อในรอบลึกๆ จะต้องเข้มข้นกว่านี้เยอะ

นนท์ กล่าวปิดท้ายว่า “เวทีนี้ผมเจอผู้แข่งขันที่หลากหลาย   ทั้งแบบเก่งรอบด้าน  แบบกลางๆ แต่สามารถนำไปต่อยอดได้  The Star Idol ไม่ได้มีการแข่งขันแค่รอบเดียวแล้วจบ  การที่เราพาคน1คนเข้าไป  หมายความว่าเราพาเค้าไปสู้กับคนที่เก่งๆ อีกหลายคน  อาจมีคนค่อยๆ ฉายแววความเป็นไอดอลขึ้นมาในรอบต่อๆ ไปก็ได้  เราสนุกที่จะได้เห็นการพัฒนา  คนดูเองก็ได้เห็นคุณภาพที่มากขึ้น  เวทีนี้มันมากกว่าแค่การประกวดเพื่อความบันเทิง  แต่มันจะเป็นบรรทัดฐาน เป็นการเซ็ทแสตนดาร์ดวงการบันเทิงในเจนเนอเรชั่นต่อๆ ไป”

ตามชมภารกิจค้นหาที่สุดแห่งไอดอล สู่การเป็นดาวดวงใหม่ สุดเข้มข้นใน The Star Idol  รับชมตอนแรกพร้อมกันทั่วประเทศ  วันอาทิตย์ที่ 22 ส.ค.นี้  เวลา โมงเย็น ทางช่องวัน31