เนสท์เล่ ส่งแบรนด์ระดับโลก ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ (HARVEST GOURMET™) บุกตลาด Plant-based Food ตอบรับเทรนด์รักสุขภาพ

23 กุมภาพันธ์ 2564, ในปัจจุบันกระแสการดูแลสุขภาพถือเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคไทยหันมาให้ความสำคัญกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน โดยหนึ่งในเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมคือการบริโภคโปรตีนจากพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการ โดยเฉพาะอาหารจากพืช หรือ Plant-based Food โดยในปัจจุบันพบว่ากว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของคนไทยบริโภคอาหารที่ทำจากพืช ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่ผู้บริโภคที่ทานมังสวิรัติ หรือ เจ แต่ยังรวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ด้วยเหตุผลที่ใส่ใจด้านสุขภาพ ความเชื่อเรื่องการละเว้นหรือการบริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยลง และเหตุผลในการช่วยเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เล็งเห็นถึงพฤติกรรมการบริโภครูปแบบใหม่นี้ จึงเปิดตัวแบรนด์ระดับโลก ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ (HARVEST GOURMET™) เสริมทัพพอร์ตผลิตภัณฑ์ และบุกตลาด Plant-based Food เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจในการดูแลสุขภาพ และ โภชนาการกันมากขึ้น คุณเครือวัลย์ วรุณไพจิตร ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร และ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า กล่าวว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ Good food, Good life ของเนสท์เล่ที่มุ่งมั่นคิดค้นนวัตกรรมอาหารเพื่อชีวิตที่ดีของผู้บริโภค เรามีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช (Plant-based Food) ที่ทั้งมีคุณค่าทางโภชนาการและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์การใส่ใจสุขภาพเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และนับเป็นสัญญาณที่ดีที่คนไทยดูแลสุขภาพกันมากขึ้น นับเป็นเวลากว่า 30 ปีที่เนสท์เล่ได้สั่งสมประสบการณ์ และความรู้ที่ได้จากงานวิจัยทั่วโลก จนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรม Plant-based Food เพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง และถือเป็นโอกาสดีที่จะได้แนะนำแบรนด์ ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ ซึ่งเป็น Plant-based Food แบรนด์แรกของเนสท์เล่ในประเทศไทย เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ มองหาอาหาร ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รสชาติถูกปาก และใส่ใจสิ่งแวดล้อม”

ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ นำเสนอนวัตกรรมอาหารจากพืช (Plant-based Food) มีโปรตีนสูง เป็นแหล่งของใยอาหาร ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่ใช้สีสังเคราะห์ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งประสบการณ์อาหารรสชาติอร่อยที่คาดไม่ถึง มาในรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อาทิ เนื้อเบอร์เกอร์, เนื้อบดละเอียด, ไก่ย่างรมควัน, ไก่ชุบเกล็ดขนมปัง และ มีทบอล ซึ่งล้วนมีส่วนประกอบหลักที่ทำจากโปรตีนพืช ได้แก่ พืชตระกูลถั่วจากธรรมชาติ, แต่งสีธรรมชาติ เช่น บีทรูทสกัดเข้มข้น และแครอทสกัดเข้มข้น ตลอดจน เพิ่มเนื้อสัมผัสที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำมันมะพร้าว ให้มีลักษณะคล้ายไขมันแทรก เพื่อมอบรสชาติเสมือนเนื้อจริง โดยเรามีฐานการผลิตล่าสุดสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ มาเลเซีย ซึ่งจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์จากฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ มีรสชาติที่ถูกปากคนเอเชีย รวมถึงคนไทยแน่นอน” คุณเครือวัลย์ วรุณไพจิตร กล่าวเพิ่มเติม

หลากหลายเมนู Plant-based Foods ที่รังสรรค์จากผลิตภัณฑ์ HARVEST GOURMETทั้งนี้ ผลสำรวจพบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยที่หันมาใส่ใจสุขภาพด้วยการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ หรือที่เรียกว่า Flexitarian นี้ มีอยู่ 2 กลุ่มหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มคนรักสุขภาพ (65%) และ กลุ่มควบคุมน้ำหนัก (20%)* คุณจันทิมา     เกยานนท์ นักโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวถึงคุณประโยชน์ทางด้านโภชนาการของอาหารจากพืช (Plant-based Food) ว่าPlant-based Food คือ อาหารที่มาจากพืช ผัก ผลไม้ เห็ดต่างๆ รวมไปถึงธัญพืช และถั่ว โดยข้อมูลพบว่าถั่วบางชนิด เช่นถั่วเหลือง จัดเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์ กล่าวคือมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน ดังนั้นการเลือกทานอาหารจากพืช ควรเลือกทานให้มีความหลากหลายและได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ข้อแนะนำสำหรับการทานโปรตีนให้เพียงพอคือ ควรได้รับปริมาณโปรตีน 1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. เพราะร่างกายต้องใช้โปรตีนในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมร่างกาย และใช้เป็นพลังงานเมื่อถึงคราวจำเป็น อาหารจากพืช (Plant-based Food) ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่รักสุขภาพ ซึ่งนอกจากมีโปรตีนสูงแล้ว ยังเป็นแหล่งของใยอาหารอีกด้วย”

ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้ธุรกิจร้านอาหาร หันมาให้ความสำคัญกับเมนูโปรตีนจากพืชกันมากขึ้นโดยมีเมนูมังสวิรัติ และ โปรตีนจากพืชเพิ่มขึ้นถึง 65% และ 32% ตามลำดับ** ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยสร้างทัศนคติใหม่ ๆ ที่ดีกับผู้บริโภค ซึ่งผลสำรวจในต่างประเทศเผยให้เห็นว่า ผู้บริโภคชื่นชอบร้านอาหารที่นำเสนอเมนู Plant-based เพราะมีอาหารทางเลือกเพื่อผู้ที่รักสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมองว่าภาพลักษณ์ของร้านดูทันสมัย และ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย***

สำหรับแผนการตลาดในช่วงแรกของการเปิดตัวแบรนด์ ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ จึงมุ่งเน้นที่การจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจร้านอาหาร เพื่อส่งมอบประสบการณ์ของแบรนด์ ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ลิ้มลอง เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 เป็นต้นไป และคาดหวังว่าโมเดลธุรกิจนี้ จะช่วยส่งต่อเทรนด์อาหารจากพืชให้เป็นที่รู้จักและนิยมในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

สำหรับคู่ค้าทางธุรกิจที่สนใจผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชจาก ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ สามารถติดต่อ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัลที่ 02-657-8625 กด 1 และผู้บริโภคสามารถติดตามข่าวสารและเมนูจากฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ที่ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจได้ที่ https://www.nestleprofessional.co.th/harvest-gourmet

สารถึงบรรณาธิการ

เนสท์เล่เป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ครอบคลุม 190 ประเทศทั่วโลก พนักงานเนสท์เล่กว่า 308,000 คนต่างมี      พันธสัญญาต่อเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ในการเปิดพลังแห่งอาหารเพื่อเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตที่ดี สำหรับทุกคนในวันนี้และในอนาคต (Unlocking the power of food to enhance quality of life for everyone, today and for generations to come) เนสท์เล่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้คนและสัตว์เลี้ยงครอบคลุมในทุกช่วงวัย มากกว่า 2,000 แบรนด์ ทั้งที่เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก เช่น เนสกาแฟ เนสเพรสโซ แม็กกี้ ตลอดจนแบรนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบในท้องถิ่นอย่าง ตราหมี หรือมิเนเร่ บริษัทฯ ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ปัจจุบัน เนสท์เล่ก่อตั้งมานานกว่า 150 ปี โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเวเวย์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ประเทศไทยผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ได้ที่

Website: https://www.nestleprofessional.co.th/

Facebook: https://www.facebook.com/NestleProfessionalThailand/

YouTube: https://www.youtube.com/c/NestleProfessionalThailand

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

*IPSOS research, July 2020

**NP Analysis, Dataessential, November 2018

***Datassential July 2019, KANTAR, July 2019