อยุธยาเฉลิมฉลองสายสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง “อยุธยา-เมืองกุม” 17 – 20 พ.ค. นี้

อยุธยากับเมืองกุม (Qom, Qum) แห่งอิหร่านหรือเปอร์เซียในสมัยก่อน ได้ร่วมลงนามเป็นบ้านพี่เมืองน้องกันไปแล้วเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2556 และเตรียมจัดงาน “ความสัมพันธ์อยุธยา-อิหร่าน” ในวันที่ 17 – 20 พฤษภาคม ศกนี้ เวลา 16.00 – 21.00 น. ที่ลานหน้า หอศิลป์แห่งชาติหรือศาลากลางหลังเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์วัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ประจำกรุงเทพฯ ในการจัดการแสดงด้านศิลปวัฒนธรรมต่างๆ จากเมืองกุม รวมถึงการออกร้านจำหน่ายสินค้าและของ    ที่ระลึกที่ขึ้นชื่อ ฯลฯ และการแสดงของอยุธยา อาทิ  การแสดง แสง เสียง และสื่อผสม ชุด “เปอร์เซียสู่ถิ่น ปฐพินทร์ไทย” โขน และระบำกุหลาบ ตลอดจนสาธิตและจำหน่ายงานศิลปหัตถกรรมต่างๆ

เมืองกุมเป็นเมืองเก่าแก่ที่เป็นศูนย์กลางทางศาสนา การศึกษา และวัฒนธรรมของอิสลาม ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับอยุธยาที่เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม-เมืองมรดกโลกที่มีวัดวาอารามมากมาย โดยในสมัยกรุงศรีอยุธยานั้น “เฉกอะหมัดกุมมี” ผู้เป็นต้นตระกูล “บุนนาค” เดินทางจากเมืองกุมเพื่อนำเรือสำเภาเข้ามาค้าขาย และตั้งถิ่นฐานในช่วงปลายรัชสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พร้อมทั้งเผยแพร่ศาสนามุสลิมนิกายชีอะฮ์ หรือ   เจ้าเซ็น และต่อมาได้เข้ารับราชการจนถึงตำแหน่งสุดท้ายเป็น “เจ้าพระยาบวรราชนายก” ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง

ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับไทย มีความผูกพันอย่างแนบแน่นมาตลอดระยะเวลากว่า 400 ปี จากชุมชนมุสลิมชีอะฮ์ในกรุงศรีอยุธยาที่ถือได้ว่ามีรากฐานจากเมืองกุม กับเพื่อนบ้านชาวพุทธ สู่สังคมแห่งมิตรไมตรีที่ถาวรจนถึงปัจจุบัน  การลงนามเป็นบ้านพี่เมืองน้องในครั้งนี้ เมืองกุมและอิหร่าน จะมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างชาวไทยกับชาวมุสลิมทั่วโลก  โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเคารพยอมรับและเข้าใจซึ่งกันและกัน ในความแตกต่างของเชื้อชาติ ศาสนา สังคม และวัฒนธรรม

นายวิทยา  ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า “เมืองกุมและอิหร่านจะมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างชาวไทยกับชาวมุสลิมทั่วโลก  โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเคารพยอมรับและเข้าใจซึ่งกันและกัน ในความแตกต่างของเชื้อชาติ ศาสนา สังคม และวัฒนธรรม  โดยเมืองกุมเป็นเมืองมหาวิทยาลัยอิสลามและการสอนศาสนาเปรียบเทียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังเป็นแหล่งจัดพิมพ์หนังสือ หลักธรรม วรรณกรรมต่างๆ โดยแปลเป็นภาษาอื่นๆ อีกมากมาย มีห้องสมุดนับร้อยแห่ง บางแห่งมีหนังสือกว่า 1 ล้านเล่ม การจัดงานความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องในครั้งนี้จึงมีทั้งกิจกรรมเชิงวิชาการ ร่วมกับสถาบันการศึกษา เช่น สัมมนา นิทรรศการ ฯลฯ และกิจกรรมเฉลิมฉลองที่ผสมผสานบรรยากาศของอยุธยาและเปอร์เซียอย่างกลมกลืน ทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรม การสาธิตงานหัตถกรรม การออกร้านจำหน่ายสินค้าที่ขึ้นชื่อของเมืองกุมและอยุธยา

ด้าน มร. มุศฏอฟา นัจญาริยอน ซอเดะห์ ที่ปรึกษาฝ่ายวัฒนธรรม และผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งอิหร่าน ประจำกรุงเทพฯ ให้รายละเอียดว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะนำมาแสดง สาธิต หรือจำหน่ายในงานครั้งนี้ มีความพิเศษสุดคือจะนำมาจากเมืองกุมทั้งหมดซึ่งจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น พรม เครื่องแก้ว กระเบื้องเคลือบ เครื่องประดับ ภาพจิตรกรรม และขนมซูฮาน เป็นต้น  นอกจากนี้ยังจัดแสดงดวงตราไปรษณียากรหรือแสตมป์ที่ระลึกของเฉกอะหมัด กุมมี เป็นสัญลักษณ์ความสัมพันธ์ของ 2 ชนชาติและ 2 เมืองที่เป็นบ้านพี่เมืองน้องกันอีกด้วย ”

ทั้งนี้ บุคคลสำคัญระดับชาติของอิหร่านหลายท่านจะให้เกียรติร่วมในพิธีเปิดงานเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อยุธยา-อิหร่านในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ เวลา 18.00 น.  และร่วมกิจกรรมทางวิชาการ พิธีกรรมทางศาสนา และเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของอยุธยา  ตลอดช่วงระยะเวลาการจัดงานถึงวันที่ 20 พฤษภาคม