‘ไซโก’ ทำโครงการ ‘SEIKO Save The Sea’ ร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูและทะเลไทย

ไซโก ร่วมกับ ททท. และหน่วยงานพันธมิตร จัดทำโครงการ SEIKO Save The Sea กิจกรรมเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูท้องทะเลไทย โดยมีการดำน้ำเพื่อทำความสะอาดท้องทะเลและชายหาด ปลูกปะการังอ่อน รวมทั้งปล่อยพันธุ์ปลา ณ เกาะราชา จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 13 ธันวาคมศกนี้ ทั้งนี้มีการจัดงานแถลงข่าวที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม เมื่อวันก่อน             

บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานพันธมิตร อาทิ บริติช ซับ อควา คลับ (ประเทศไทย), นิตยสาร Honeymoon & Travel จัดทำ โครงการ SEIKO Save The Sea เพื่อร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูท้องทะเลไทย โดยจะมีการร่วมกันดำน้ำเพื่อทำความสะอาดท้องทะเลและชายหาด ปลูกปะการังอ่อน รวมทั้งปล่อยพันธุ์ปลา เพื่อคืนความสมดุลให้กับท้องทะเล ซึ่งกิจกรรมจะจัดขึ้นในวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ณ เกาะราชา จังหวัดภูเก็ต โดย มร.ฮารุมิตซึ อากาชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงที่มาและวัตถุประสงค์ของโครงการว่า “SEIKO Save The Sea เป็นโครงการที่ต่อยอดจากการเปิดตัวนาฬิกา “SEIKO PROSPEX ZIMBE Limited Edition” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฉลามวาฬ รวมถึงในประเทศไทยมีคนที่ชื่นชอบนาฬิกาดำน้ำของไซโกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ไซโกมักนำเอาแรงบันดาลใจในการออกแบบนาฬิกาดำน้ำหลายรุ่นมาจากท้องทะเล เราจึงต้องการคืนสิ่งดีๆกลับสู่ท้องทะเลและอยากให้ช่วยกันดูแลทะเลไทยให้สะอาด เพื่อช่วยส่งเสริมทั้งการอนุรักษ์และการท่องเที่ยว   จึงเป็นการจุดประกายไอเดียที่ทำให้เกิดโปรเจ็คท์นี้ขึ้น โดยไซโกยังได้นำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายนาฬิกาในคอลเลคชั่น SEIKO PROSPEX ZIMBE มาจัดทำโครงการด้วย”

ภายในงานแถลงข่าว ได้รับเกียรติจาก นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาร่วมแถลงข่าวในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ร่วมกันจัดโครงการนี้ โดยนางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณไซโกและเหล่าพันธมิตรที่สร้างสรรค์โครงการนี้ เหตุที่ ททท. ให้การสนับสนุนโครงการนี้เนื่องจากเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่ดี และการอนุรักษ์ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับ Community-Based Tourism, Green Tourism, Volunteer Tourism และ Responsibility Travel ซึ่ง ททท. ดำเนินการการอยู่ การช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นการช่วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วย จึงอยากให้เกิดโครงการนี้ต่อๆ ไปในอีกหลายแห่ง นอกจากนี้ ถ้ากิจกรรม Save The Sea ประสบความสำเร็จ ททท.อาจเสนอเกาะราชาที่ไซโกจะไปจัดกิจกรรม ให้เป็นสถานที่สำหรับ “กูเกิล สตรีตวิว”(Google Street View – เทคโนโลยีที่ทำให้ดูภาพเสมือนยืนอยู่บนสถานที่จริง) เป็น Special Collection แบบใต้น้ำแห่งต่อไปนอกจากเกาะพงัน เพราะเป็นเกาะที่สวยมาก ถ้าเราสามารถ Save The Sea ได้ ก็แปลว่าเราเห็นว่าสถานที่นั้นสวย อยากให้สวยเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิม”

ส่วน ผศ.ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้ที่ปลุกกระแสการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและเป็นไอคอนของคนรุ่นใหม่หัวใจรักธรรมชาติ มาร่วมผนึกกำลังและส่งมอบแนวคิดภายในงาน กล่าวว่า “SEIKO Save The Sea เป็นโครงการที่ดีมาก ขอบคุณไซโกที่ห่วงใยท้องทะเล ปีนี้นับเป็นโอกาสอันดีประจวบเหมาะที่ฉลามวาฬได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์สงวนลำดับที่ 18 ของไทยด้วย ส่วนทะเลไทยเป็นทะเลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คาบเกี่ยวทั้งมหาสมุทรแปซิฟิกและอันดามัน จึงมีนักท่องเที่ยวมาจากทั่วโลก ตอนนี้คนไทยรักและเห็นความสำคัญของทะเลมากขึ้น เกาะราชาเป็นเกาะที่สวยมากโดยเฉพาะจุดที่ไซโกจะไปดำน้ำเพื่อทำความสะอาดท้องทะเล เป็นจุดที่มีการสร้างแนวปะการังเทียมด้วยเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติด้วย ภาครัฐเองก็ต้องการภาคเอกชนที่เข้าใจธรรมชาติมาร่วมมือกันในการอนุรักษ์ โดยเฉพาะปีนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวทะเลไทยมากถึงกว่า 20 ล้านคน ฉะนั้นเราต้องช่วยกัน เพราะเป็นทะเลเป็นของคนไทยทุกคน”

นอกจากนี้ ยังมีสองดาราหนุ่มสาวผู้ชื่นชอบการดำน้ำ ได้แก่ ป้อง – ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ และ น้ำตาล –
พิจักขณา วงศารัตนศิลป์
มาร่วมพูดคุยและแชร์ประสบการณ์การดำน้ำและแนวคิดอนุรักษ์เพื่อท้องทะเลไทย โดยป้อง พระเอกหนุ่มที่กลายเป็นนักดำน้ำตัวยงไปแล้ว กล่าวว่า “ชอบการดำน้ำมาก ดำน้ำมาประมาณ 10 ปีแล้ว ไปดำบ่อยๆ จนคิดว่าควรเรียนดำน้ำเสียเลย ที่ผ่านมาไปดำน้ำที่ต่างประเทศด้วย เช่น มาเลเซีย อินโดนีเชีย และล่าสุดคือ
สิบาดัน ตอนนี้กำลังเรียนเป็น DMT (Dive Master Trainee) ถ้าเรียนจบก็จะสามารถลีดไดฟ์ เป็นผู้นำคนอื่นดำน้ำได้”

ด้านนางเอกสาว น้ำตาล กล่าวว่า “ตอนแรกจะเป็นคนที่กลัวโลกใต้น้ำเพราะรู้สึกอึดอัด เหมือนอยู่ในพื้นที่แคบ โดยจุดเริ่มต้นการดำน้ำเริ่มจากกลุ่มเพื่อนๆ นักแสดงหญิงที่ชอบไปดำน้ำ เมื่อเห็นว่าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องดำได้ เมื่อลองดำแล้วจึงชื่นชอบ รู้สึกท้าทาย และทำให้เราเหมือนอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ตอนนี้ลงเรียนคอร์สเรียนดำน้ำอย่างจริงจังและกำลังเก็บไดฟ์  ถ้ามีเวลาว่างกว่านี้และเก็บไดฟ์ครบเมื่อไหร่ ก็จะไปดำน้ำต่างประเทศอย่างแน่นอน สำหรับเกาะราชา ตนเองเคยไปดำน้ำมาแล้ว ที่ไซโกจะไปจัดโครงการ SEIKO Save The Sea ที่นั่น ก็อยากจะไปอีกครั้ง”  โดยหนุ่มป้องตบท้ายว่า “ทะเลของบ้านเราสวยงามติดอันดับโลก นอกจากเราจะไปเที่ยวกันแล้ว ก็อยากให้เราช่วยกันดูแลและร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติด้วยครับ”  ภายในงานแถลงข่าวยังมีตัวแทนจากพันธมิตรที่ร่วมโครงการ อาทิ ธัชธร สุธัญญวินิจ ประธานบริหาร BSAC Thailand, อนิวรรณ อรุโณรัตน์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล และแขกผู้มีเกียรติมาร่วมแสดงความยินดี เช่น จิรวรรณ วัฒนสมบัติ ผอ.อาวุโส แผนกส่งเสริมขาย ฝ่ายการตลาด ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, สุวัชรี ภูษณสุวรรณศรี ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อนาฬิกา ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ดร.ปราโมทย์ เหรียญเจริญสุข รวมทั้งสื่อมวลชนร่วมทำข่าวจำนวนมาก   ทั้งนี้ ท่านที่สนใจโครงการ SEIKO Save The Sea สามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ www.seikozimbe.com